2 พี่น้องยังผวา! เข้าแจ้งความ หลังถูกแก๊งทวงหนี้ดักอุ้มกลางวันแสกๆ พาไปปล่อยทิ้งข้ามอำเภอ

จากกรณีแก๊งเงินกู้ขับรถชนและบังคับพาหนึ่งในผู้เสียหายขึ้นรถ เหตุเกิดในพื้นที่บ้านหล่ายลาว ม.15 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ก่อนนำไปปล่อยทิ้งในพื้นที่ อ.แม่ลาว และได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ลาว โดยได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามความคืบหน้าของคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย โดย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย เปิดเผยว่า กรณีนี้ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทางสื่อมวลชนที่ได้ติดตามนำเสนอข่าว ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากทางผู้บังคับบัญชา และก็ได้ข้อสั่งการมาจากศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เจ้าหน้าที่สืบสวนภูธรจังหวัด สืบสวน สภ.เมืองเชียงราย และสืบสวน สภ.แม่ลาว ร่วมกันสืบสวนสอบสวน เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

แต่ก็พบอุปสรรคในการสืบสวน โดยในเบื้องต้นไม่สามารถติดต่อกับทางผู้เสียหายได้ ทางชุดสืบก็เลยพยายามติดต่อญาติพี่น้องของผู้เสียหาย ซึ่งเมื่อวานตอนเกิดเรื่องทางผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้อีก สภ.หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ สภ.ที่เกิดเหตุ อยู่นอกเหนือพื้นที่อำนาจการสอบสวน จนกระทั่งสอบสวนเสร็จจึงรู้ว่าผู้เสียหายแจ้งความนอกพื้นที่ จึงแนะนำให้ทั้งหมดมาแจ้งความที่ สภ.เมือง ในวันนี้ แต่เจ้าหน้าที่รอจนกระทั่งช่วงเย็น แต่ผู้เสียหายยังไม่ได้มาแจ้งความแต่อย่างใด

จากการพิจารณาเบื้องต้นจากข่าวที่ปรากฏ พบว่าบางคดีเป็นคดีที่ยอมความกันได้ แต่บางคดีก็เป็นคดีที่ไม่สามารถยอมความได้ โดยเฉพาะกรณีการควบคุมตัวผู้เสียหายขึ้นรถ เอาถุงดำคลุมหัว เอาปืนจี้ ในเบื้องต้นก็อจากจะให้ทางผู้เสียหายมาแจ้งความ เพื่อให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลังจากได้ขัอมูลจากผู้เสียหายแล้ว หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาสอนสวน และดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ต่อมา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และ น.ส.บี (นามสมมติ ) อายุ 15 ปี ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองเชียงราย เพื่อแจ้งความในกรณีดังกล่าว โดยมี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย เป็นผู้รับแจ้งความร้องทุกข์ โดยทางผู้เสียหายได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากกล้องวงจรปิดตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ จะพบว่าพวกตนนั่งซ้อนท้ายมากับแฟน นั่งกันมาคนละคัน

แต่พอพ้นระยะของกล้องวงจรปิดไปนิดเดียว ตนได้ให้น้องมานั่งซ้อนท้ายตน และให้แฟนตนและพี่ชายพากันกลับบ้าน เพราะแฟนตนจะรีบไปดูไก่ที่หมู่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. ส่วนตนและน้องจะพากันขี่รถกินลมชมวิว เพราะน้องไม่ใช่คนในพื้นที่ จึงอยากพาเที่ยวไปเรื่อยๆ

กรณีเงินที่ตนไปกู้ยืมเขามานั้น ตอนนั้นตนกู้มาจำนวน 6,000 บาท แต่ได้รับเงินจริงแค่ 5,100 บาท ที่ขาดไปเขาบอกเป็นค่าธรรมเนียมหรือค่าอะไรสักอย่างตนไม่แน่ใจ โดยผ่อนมาตลอดทุกวัน วันละ 150-200 บาท แล้วแต่ว่าวันไหนมีเงินมากน้อย จนครบ 24 วัน รวมแล้วตนจ่ายไปทั้งหมด 6,400 บาท ซึ่งตนคิดว่าครบตามสัญญาแล้ว แต่เขาก็ยังทวงมาอยู่ตลอด ที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยไปทวงถึงที่บ้าน จนกระทั่งวันเกิดเหตุที่มาเกิดเรื่องตามข่าว

ด้าน น.ส.บี เผยว่า หลังจากตนถูกบังคับขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังบนรถแล้ว พอผ่านแยกวัดร่องขุ่นไปได้นิดเดียวพวกเขาก็เอาผ้ามาคลุมหัวตน ไม่ให้เห็นว่าพาไปจุดไหน และเอาปืนมาจี้ตนไว้ด้วย โดยระหว่างโดนควบคุมตัวเขาก็มีการข่มขู่ตนตลอดว่า อย่าทำแบบนี้กับใคร อย่าคิดเบี้ยวหนี้ จะหนีไปไหนก็ไม่มีทางรอด เพราะพรรคพวกเขามีอยู่ทั่วทั้งจังหวัด

จากนั้นผ่านไปสัก 10-15 นาที เขาก็พาไปทิ้งที่บ้านสบห้วย ม.1 ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ซึ่งมีแต่ป่าข้าวโพด ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กม. แต่ไกลจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กม. จนได้ไปขอความช่วยเหลือในที่สุด และที่มาแจ้งความในวันนี้ต้องการดำเนินคดีในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว อาวุธปืน และข้อหาอื่นๆตามที่ พงส.จะเห็นสมควร