พระราชวัชรพัฒนาทร (ณรงค์ ปสนฺโน) เจ้าอาวาสวัดม่วง เขตบางแค กรุงเทพฯ เปิดใจครั้งแรกกับสื่อมวลชน กรณีเงินสด 10 ล้านบาท และทองคำแท่งน้ำหนัก 250 บาท รวมมูลค่ากว่า 22.5 ล้านบาท หายไปจากกุฏิ พร้อมยืนยันว่าทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับเงินบริจาคหรือทรัพย์สินของวัด
เจ้าอาวาสเปิดหลักฐานให้ดูเป็นร่องรอยงัดแงะที่ประตูห้องพัก พร้อมชี้แจงว่า ทรัพย์สินทั้งหมดสะสมมาจากการปฏิบัติกิจของสงฆ์ตลอดกว่า 40 ปี โดยทยอยเก็บเงินส่วนตัวทีละเล็กทีละน้อย และนำไปซื้อทองคำแท่งไว้เพื่อเก็งกำไรตามคำแนะนำของลูกศิษย์คนสนิท ย้ำชัดว่าเงินบริจาคของญาติโยมเก็บไว้ในตู้เซฟอย่างแน่นหนา ไม่มีอะไรหายไป ส่วนทองคำ 250 บาท และเงินสด 10 ล้านบาท วางไว้บริเวณใกล้ตู้เซฟ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินส่วนตัว
พระราชวัชรพัฒนาทร เล่าว่า ตนเบิกเงินสด 10 ล้านบาทจากบัญชีส่วนตัวที่ธนาคาร สาขาห้างดังย่านศาลายา เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยไปกับคนขับรถส่วนตัว แล้วนำเงินใส่กระเป๋าเดินทางสีเทา ลากขึ้นไปเก็บไว้บนกุฏิใกล้กับทองคำแท่ง และใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้สนใจตรวจสอบ เพราะมั่นใจว่าไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง
จนกระทั่งวันที่ 29 มิถุนายน ไวยาวัจกรชวนให้ไปซื้อทองคำแท่งเพิ่มตามแผนเก็งกำไร เมื่อกลับมาก็พบว่า เงินสดและทองคำแท่งทั้งหมดหายไป เหลือเพียงกระเป๋าเปล่า จึงให้ไวยาวัจกรรีบไปแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม
เจ้าอาวาสเผยว่า ไม่สงสัยใครเป็นพิเศษ แม้ที่ผ่านมาเคยมีเด็กวัดลักของในกุฏิถูกจับได้หลายครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าตำรวจจะจับคนร้ายได้หรือไม่ เพราะกล้องวงจรปิดภายในกุฏิถูกปิดด้วยกระดาษ ซึ่งตนเป็นคนปิดเอง เหตุผลเพราะกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว เช่น ขณะพักผ่อนหรือเปลี่ยนจีวร ไม่ต้องการให้ช่างติดตั้งกล้องหรือบุคคลอื่นเห็นภาพส่วนตัว ยืนยันไม่ได้มีเจตนาปิดบัง และพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เต็มที่ พร้อมวอนคนร้ายให้นำเงินและทองคำมาคืน เพราะตั้งใจจะนำทรัพย์สินทั้งหมดไปทำบุญสร้างโบสถ์และวิหารภายในวัด
ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีทองคำที่เบิกมา หายไป 50 บาท ก็ไม่ได้แจ้งความ เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ ก็แค่ให้ข้อมูลกับตำรวจไป ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต ครั้งนี้ที่หายเยอะ ทีแรกก็ตั้งใจว่าจะไม่แจ้ง เพราะกลัวว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียง เงินทองเสียได้ แต่ชื่อเสียงที่สะสมมานาน มันเสียแล้วเสียเลย
ส่วนกรณีพระนิทัศน์ พระลูกวัด ที่ออกมากล่าวหาว่าเงินทองที่หายไปเป็นของบริจาค และตั้งข้อสงสัยว่าทรัพย์สินหายจริงหรือไม่ เจ้าอาวาสบอกว่า ไม่อยากให้นักข่าวไปให้ความสำคัญกับพระรูปนี้ เนื่องจากมีปัญหากันมานาน เพราะพระนิทัศน์เคยมีคดีไปยุ่งเกี่ยวกับสีกา จึงถูกตักเตือนและสั่งงดรับกิจนิมนต์ ทำให้ไม่พอใจ และพยายามพูดใส่ร้ายมาตลอด