ชาย อายุ 61 ปี ชาวบ้านบ้านศิลาชัย ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือ หลังนำบัตรเอทีเอ็มของภรรยา อายุ 61 ปี ภรรยา ซึ่งป่วยติดเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากว่า 1 ปี ไปกดถอน แต่ไม่สามารถกดถอนได้ เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าบัตรถูกระงับ ต้องให้เจ้าของบัญชีมาติดต่อเซ็นเอกสารที่ธนาคารเพื่อทำบัตรใหม่ หรือนำสมุดบัญชีมาเบิกถอนเอง
ทางสามีก็แจ้งไปว่าภรรยาป่วยติดเตียง ไม่สามารถมาด้วยตนเองได้ ให้ทำเอกสารมอบอำนาจไปให้ภรรยาเซ็นที่บ้านได้หรือไม่ ทางธนาคารยืนยันว่าต้องนำตัวเจ้าของบัญชีไปติดต่อที่ธนาคารเอง หรือหากจะให้เจ้าหน้าที่นำเอกสารไปให้เซ็นที่บ้าน ก็ต้องรอหลังปีใหม่ เพราะช่วงนี้ประชาชนมาใช้บริการกันจำนวนมาก ยังไม่สามารถออกไปบริการที่บ้านได้
ภรรยาซึ่งป่วยติดเตียง เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า หลังจากล้มป่วยติดเตียงก็ไม่สามารถไปค้าขายได้เหมือนเมื่อก่อน ขาดรายได้ มีเพียงเบี้ยคนพิการเดือนละ 600 บาท และเงินที่ลูกส่งมาให้บ้าง
ตนก็เสียใจเพราะไปธนาคารด้วยตัวเองไม่ได้ ลำพังนอนรักษาตัวที่บ้านก็มีอาการปวดเกร็งเป็นระยะ บางครั้งปวดรุนแรงถึงขั้นน้ำตาไหล หากจะรอเจ้าหน้าที่ออกมาทำให้หลังปีใหม่ตามที่แจ้ง ก็คิดว่านานเกินไปเพราะจำเป็นต้องใช้เงิน
ด้านสามี กล่าวว่า อยากร้องขอให้ทางธนาคารพิจารณาหาช่องทางที่ไม่ต้องพาภรรยาที่ป่วยติดเตียงไปเซ็นเอกสารที่ธนาคารได้หรือไม่ เพราะเกรงว่าหากนำภรรยาซึ่งป่วยติดเตียงไป อาจจะส่งผลกระทบต่ออาการป่วยหรือเกิดภาวะช็อกได้ เพราะบางครั้งภรรยาก็มีอาการปวดเกร็งที่มือและขา ต้องนัดไปตรวจรักษาที่ รพ. เป็นระยะๆ
และหากจะรอเจ้าหน้าที่ออกไปให้บริการหลังปีใหม่ ก็คิดว่านานเกินไป เพราะจำเป็นต้องใช้เงิน 10,000 บาท เพื่อนำไปซื้อนม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป และอาหารอ่อนให้ภรรยา
หลังภรรยาล้มป่วยมาประมาณ 1 ปี ตนก็ต้องคอยดูแลภรรยา ทำให้ขาดรายได้ทั้งคู่ ทุกวันนี้มีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการ และเงินที่ลูกส่งมาให้บ้างเท่านั้น หวังจะได้เงิน 10,000 บาท มาแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้บ้าง แต่กลับไม่สามารถเบิกถอนเงินได้