เกิดเหตุขัดแย้งในพื้นที่ ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อสองสามีภรรยาวัย 62 ปี ร้องเรียนผ่านสื่อว่าถูกตัดมิเตอร์น้ำประปาหมู่บ้านโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากล้อมรั้วที่ดินของตนเอง โดยระบุว่าผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านใกล้เคียงเป็นผู้ดำเนินการ พร้อมให้เหตุผลว่าทั้งสองปิดทางเดินไปยังศาลปู่ตาประจำหมู่บ้าน
สองสามีภรรยาชี้แจงว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวมีโฉนดเป็นกรรมสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย และการล้อมรั้วเป็นเพียงการป้องกันขโมย เนื่องจากก่อนหน้านี้มีทรัพย์สินสูญหายเป็นประจำ พร้อมยืนยันว่าเส้นทางไปศาลปู่ตายังมีอีกทางหนึ่งที่สามารถใช้เดินทางได้ ไม่ได้ตั้งใจปิดกั้นเส้นทางของชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่บ้านที่ถูกพาดพิงออกมาชี้แจงว่าการล้อมรั้วดังกล่าวส่งผลให้ชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปยังศาลปู่ตาได้ เนื่องจากเส้นทางที่เหลืออยู่เป็นที่ดินของบุคคลอื่น ไม่ใช่ของเจ้าของรั้ว อีกทั้งเส้นทางที่ถูกรั้วกั้นเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้กันมาโดยตลอด พร้อมระบุว่าเรื่องการขโมยทรัพย์สินเป็นสิ่งที่ทุกคนก็ประสบ ไม่ใช่ข้ออ้างที่เหมาะสมในการปิดทางสาธารณะ
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่และสอบถามสมาชิก อบต. หมู่บ้านจอก ซึ่งเปิดเผยว่า ก่อนมีการตัดมิเตอร์น้ำ ได้มีการจัดประชาคมชาวบ้าน มีผู้เข้าร่วมราว 60-70 คน จากประชากรทั้งหมดประมาณ 400 คน โดยมีมติร่วมกันว่า “ถ้าไม่ให้ใช้ทาง ก็จะไม่ให้ใช้น้ำ” เป็นมติที่ตกลงกันโดยไม่มีข้อแม้
สมาชิก อบต. ระบุเพิ่มเติมว่า ทางที่เจ้าของที่ดินกล่าวว่ายังสามารถใช้ได้นั้น ความจริงเป็นที่ดินของคนอื่น ไม่ใช่ของเจ้าของรั้ว และไม่สามารถยืนยันได้ว่าการตัดน้ำแบบนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ หากผิดก็จะถือว่าผิดทั้งหมู่บ้าน เพราะเป็นการลงมติร่วมกัน
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายนี้ย้ำว่า หากเจ้าของที่กลับคำและอนุญาตให้ชาวบ้านใช้ทางเดิมได้ การต่อกลับมิเตอร์น้ำก็สามารถทำได้ทันที เรื่องจะได้ยุติลงง่ายๆ โดยเสนอว่า หากจะล้อมรั้วจริง ควรเว้นทางให้ชาวบ้านเดินผ่านไปยังศาลปู่ตาได้เช่นเดิม พร้อมยืนยันว่าประปาหมู่บ้านเป็นขององค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งมอบหมายให้ชาวบ้านดูแลร่วมกัน
สรุปสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อ โดยทั้งสองฝ่ายยังยืนกรานในเหตุผลของตนเอง และคงต้องรอการไกล่เกลี่ยหรือข้อยุติจากภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป