เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องพัก เหตุเกิดที่หอพักแห่งหนึ่ง ซอยไชยวงศ์ ชุมชนคลองเจริญ ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุจึงรีบออกไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นหอพักปูน 3 ชั้น ที่ชั้น 2 ของห้องพักห้องหนึ่งพบศพหญิงอายุ 19 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียง ตามแขนทั้งสองข้าง มีรอยจ้ำเลือด ตามร่างกายไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย ที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาประมาณ 1 – 2 ชม. แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เบื้องต้นในที่เกิดเหตุมีหญิง อายุ 19 ปี เพื่อนที่พักอยู่ด้วยกัน ก่อนจะโทรหา หญิง อายุ 19 ปี เพื่อนที่มีห้องพักอยู่ใกล้กันให้มาช่วย ก่อนจะนั่งกอดกันร้องไห้ด้วยความเสียใจ
เพื่อนที่พักอยู่กับผู้เสียชีวิตเล่าว่า ตนกับผู้เสียชีวิตออกไปนั่งเล่นอยู่ที่ห้องของเพื่อนอีกคนที่อยู่ซอยถัดไป ออกไปตั้งแต่เวลาประมาณ 23.00 น. ตนกับเพื่อนอีกคนนั่งดื่มเบียร์กัน ส่วนผู้เสียชีวิตนั่งดื่มน้ำกระท่อมคนเดียว 1 ขวด ขวดประมาณ 1.5 ลิตร จากนั้นก็พากันกลับมานอนที่ห้องตอนเวลาประมาณ 05.00 น.
หลับไปได้สักพัก ผู้เสียชีวิตก็เริ่มมีอาการตาลอย กัดฟัน เหมือนกำลังใจจะขาด ตนเขย่าตัว เรียกชื่อเขา เขาก็ไม่ตอบสนอง เมื่อเห็นท่าไม่ดีก็โทรเรียกเพื่อนอีกคนที่มีห้องพักอยู่ใกล้กันให้มาช่วยดู แต่เพื่อนก็เสียชีวิตแล้ว เพื่อนเคยกินน้ำกระท่อม แต่ไม่ได้กินนานแล้ว เมื่อคืนไม่รู้คิดยังไง เพื่อนถึงสั่งมานั่งกินอยู่คนเดียว และเพื่อนก็ไม่เคยบอกว่ามีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่
ด้านเพื่อนของผู้เสียชีวิตอีกคน เล่าว่า ผู้เสียชีวิตเรียนอยู่วิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง ชั้น ปวส.2 แต่เรียนคนละห้องกับตน เพื่อนมาหาช่วงดึก และกลับห้องพักเกือบจะเช้าแล้ว ผู้เสียชีวิตนั่งกินน้ำกระท่อมคนเดียว 1 ขวดใหญ่ ตอนที่เขานั่งกินก็ไม่มีอาการผิดปกติอะไร บ่นแค่ว่าง่วงนอนเท่านั้น เขาเคยกินน้ำกระท่อมมาแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร เขาสั่งซื้อจากร้านในเมือง และให้ไรเดอร์มาส่งที่ห้อง คนอื่นไม่ได้กินด้วย มีแค่ผู้เสียชีวิตเท่านั้นที่ดื่ม เมื่อเพื่อนโทรบอกก็รีบมาหาทันที ไม่นึกว่าเหตุการณ์จะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
เบื้องต้นตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาต้นตอของน้ำกระท่อมขวดนี้ ว่าซื้อมาจากที่ไหน และมีส่วนผสมอะไรบ้าง แต่ก็ยังไม่สรุปว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน จึงทำการเก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายในที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำศพไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อรอการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และจะประสานญาติให้มาติดต่อรับศพ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป