“เจ๊เจี๊ยบ” เปิดใจ ซื้อทองร้านประจำเก็บไว้เกือบ 10 ปี ทั้งเสือ ม้า มังกร สุดท้ายเป็นงานศิลปะ เคลือละอองทองคำแท้ “ระดับไมครอน”

ในรายการ โหนกระแส วันนี้ “เจ๊เจี๊ยบ” ผู้เสียหายจากคดีหลอกขายกรอบรูปทองคำ ได้ออกมาเปิดใจเล่าเหตุการณ์สุดช็อกด้วยตัวเอง หลังถูกหลอกให้ซื้อกรอบรูปที่อ้างว่าเป็นทองคำแท้ 99% มานานนับ 10 ปี สุดท้ายเมื่อนำไปหลอมตรวจสอบ กลับพบว่าเป็นเพียง “เศษกระดาษเคลือบเงา” มูลค่าความเสียหายรวมหลายล้านบาท

เจ๊เจี๊ยบเล่าว่า เธอเป็นลูกค้าร้านทองแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี เคยซื้อทั้งทองรูปพรรณ ทองแท่ง และแหวนต่างๆ จนกระทั่งมีการเสนอขายกรอบรูปทองคำ โดยอ้างว่าเป็นทองแท้ นำมารีดแล้วทำเป็นลวดลายมงคล เช่น ม้า 9 ตัว, มังกร และเสือ ราคากรอบเล็กอยู่ที่หลักแสน ส่วนกรอบใหญ่สูงถึง 6-7 แสนบาท เธอจึงไว้ใจและซื้อสะสมไว้หลายสิบชิ้น ใช้ประดับบ้านและมอบเป็นของฝากให้ญาติผู้ใหญ่

จนกระทั่งมีข่าวเกี่ยวกับร้านทองของบุคคลในวงการบันเทิงเรื่องทองปลอม เจ๊เจี๊ยบเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ จึงให้ ปิ๊ง น้องคนสนิทนำกรอบรูปทองคำไปสอบถามร้านว่า รับซื้อคืนหรือไม่ แต่กลับถูกปฏิเสธ ทั้งยังอ้างว่าเป็นทองแท้ 100% และสามารถนำไปหลอมเพื่อขายเป็นทองได้

เมื่อหลอมจริง กลับพบว่าภายในไม่มีทองเลยแม้แต่น้อย เป็นเพียงกระดาษแผ่นบางๆ สร้างความตกใจและเสียใจอย่างมากให้กับเจ๊เจี๊ยบ โดยเธอยังมีกรอบรูปทองคำจากร้านนี้เหลืออยู่อีกหลายกรอบ มูลค่ารวมประมาณ 1 ล้านบาท หากรวมกับที่ซื้อแจกผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ความเสียหายน่าจะมี 3 ล้าน เมื่อกลับไปแจ้งกับทางร้าน พร้อมนำหลักฐานการหลอมทองไปแสดง ทางร้านกลับปัดความรับผิดชอบ พูดอะไรไม่ออก บอกแต่ว่าทองของเขา ซื้อต่อมาอีกที 

ในรายการได้เชิญ นะโม บ้านช่างทอง มาร่วมกันทดสอบทองอีกครั้งในรายการ โดยเริ่มจากการเอาแผ่นทองไปลองเผา ปรากฏว่าเผาออกมาเป็นก้อนพลาสติกไหม้สีดำทั้งก้อน พี่หน่วงและทนายแก้วพูดตรงกันว่าฉุนมาก กลิ่นเป็นพลาสติกไหม้ฉุนมาก นะโมชี้ให้เห็นว่า จะเห็นว่ามีเศษสีทองๆปนอยู่ มันเป็นทองจริง แต่มันน้อยจนแยกออกมาไม่ได้ เป็นเหมือนแค่เศษฝุ่นสีๆทองเท่านั้น

พอเอาเข้าไปในเครื่องทดสอบโลหะ หาระดับทองคำ มันก็เจอทองจริงๆ แต่เป็นทองเคลือบระดับไมครอน คือเคลือบบางมากจนไม่สามารถจะแยกออกมาจากพลาสติกได้เลย นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมถึงต้องเผา 

ขณะที่ทางตัวแทนของร้านที่ขาย ชื่อ คุณยุ้ย จากร้าน บ้านช่างทอง วังบูรพา ยืนยันว่า สินค้าที่เป็นปัญหานี้ ไม่ได้เป็นทองรูปพรรณ เราได้แจ้งลูกค้าไปแล้วว่าไม่ใช่ทองรูปพรรณ เป็นของตกแต่ง ที่ผลิตด้วยการพ่นอนุภาคทองคำไปเคลือบพื้นผิว และเรามีใบรับรองจากสถาบันอัญมณีของประเทศไทย ว่าเป็นทองคำ 99% อย่างแน่นอน

สินค้านี้เราขายมานานมากแล้ว เป็น 20 ปี ได้แล้ว ว่ามันเป็นงานศิลปะตกแต่งบ้านนะคะ เราจะไม่รับซื้อคืน แต่เราสามารถดูแล ส่งเคลมที่โรงงานให้ได้ เราแจ้งลูกค้าเสมอ สินค้าทำจากทองจริงๆ แต่ฟังก์ชันการใช้งานมันจะไม่ใช่ทองที่เราสวมใส่ ในความเป็นจริง กรอบรูปใหญ่ขนาดนั้น ถ้าเป็นทองล้วนๆ เขาถือไม่ไหวนะคะ ต้องเอารถมาขน

ด้านคุณปราโมทย์ ผู้ผลิต โฟนอินให้ข้อมูลว่า เป็นการผลิตแบบสปาร์คลิง คือการทำให้ทองเป็นอนุภาคเล็กๆ พ่นไปเกาะพื้นผิว แต่อยากให้มองว่าเป็นงานศิลปะ ถามว่าต้นทุนมันจะเท่าไหร่ ก็สามารถเทียบให้เห็นภาพได้ว่า ถ้าพ่นลงไปในพื้นที่ขนาด A4 จะใช้ทองประมาณ 2 กรัม มูลค่าประมาณ 700 บาท(เป็นเงิน 700 บาท)

เมื่อถามหาใบเสร็จว่าเวลาเจ๊เจี๊ยบไปซื้อของ ซื้อทองที่ร้านนี้ ได้เป็นใบเสร็จถูกต้องมาไหม เจ๊เจี๊ยบบอกว่าไม่มี ไม่มีบิล VAT มีแค่กระดาษสมุดฉีกเป็นแผ่นเล็กๆ เขียนด้วยลายมือของทางร้าน ไม่มีใช่บิลด้วยซ้ำ ขณที่คุณยุ้ยบอกว่ามีการออกบิลเขียนมือให้ทุกครั้ง แต่เจ๊เจี๊ยบยืนยันว่าไม่จริง

ท้ายที่สุดในรายการ ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า จะเข้าไปเจรจาว่าทางร้านจะรับผิดชอบยังไงบ้าง ขอให้คุณเจี๊ยบเข้าไปเจรจาได้เลย ซึ่งทางคุณเจี๊ยบยืนยันว่า ถ้าของมันมีมูลค่า เขารับซื้อคืนเท่าไหร่อย่างไร เราก็จะยอมรับให้ได้ ต่อให้ทองมันมีน้อย แต่ถ้ายังเป็นทองจริงๆ ก็ขอให้มันมีมูลค่าหน่อยได้ไหม ไม่ใช่เอาไปขายที่ไหนก็ไม่มีใครรับแบบนี้