จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปขณะเด็กชายวัยประมาณ 7 ขวบ ถูกชายชราวัย 87 ปี ใช้ไม้ทุบตี โดยมีผู้หญิงเข้าห้ามปรามแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ พร้อมกับข้อความระบุว่า “ในฐานะที่เป็นมูลนิธิ และช่วยเหลืองานสาธารณประโยชน์ทั่วไป คลิปนี้มีคนร้องเรียนมาให้ทำอย่างไรก็ได้ให้ช่วยเหลือเด็กให้ได้ เหตุการณ์นี้เกิดที่พื้นที่ ต.ไทรขึง อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี”
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ ได้พบกับหญิง อายุ 55 ปี เป็นเจ้าของร้านและเป็นหญิงที่ปรากฏในคลิปที่เข้าไปห้ามไม่ให้ตาทุบตีหลาน
เจ้าของร้าน เล่าว่า น้องจะมาที่ร้านค้าของตนทุกวันอยู่แล้ว ซึ่งเหตุที่ปรากฏในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวาน ในช่วงเช้าน้องมาที่ร้านตน หลังจากน้องมาถึงประมาณ 30 นาที คุณตาก็ได้เดินตามมา เมื่อมาเจอน้องก็ลงมือทุบตีและต่อว่าที่น้องหนีออกจากบ้าน ซึ่งตนก็พยายามห้ามอยู่พักใหญ่ ก่อนจะมีลูกค้าเข้ามาที่ร้านและช่วยถ่ายคลิปไว้ ตนจึงนำคลิปออกไปเผยแพร่เพื่อที่จะได้มีคนเข้ามาช่วยเหลือน้อง
ปกติน้องก็ไม่ได้เป็นเด็กเกเรอย่างใด แต่สาเหตุที่ทำให้คุณตาตีน้องตนคิดว่าเป็นเพราะน้องชอบออกจากบ้าน ซึ่งคุณตาอายุเยอะแล้ว คงดูไม่ทัน คงเป็นห่วงมาก ซึ่งตนอยากให้มีหน่วยงานเข้ามารับน้องไปดูแล จะได้เรียนหนังสือหรือรักษาตัวเหมือนเด็กทั่วไป
ด้านเพื่อนบ้าน เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนทราบว่าคุณตาได้ใช้โซ่ล่ามคอน้องไว้ที่บ้าน และมีคนไปเห็นน้องแกะออกมานั่งอยู่ริมถนน แต่ที่คอยังคงมีสายคล้องอยู่
ล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นที่และนำตัวเด็กเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
น.ส.ชลลดา ชนะศรีรัตนกุล พมจ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่อง เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี นิคมฯพระแสง และ สนง.พมจ.สุราษฎร์ธานี (ศูนย์บริการคนพิการ) ได้ลงพื้นที่ ประเมินและพิจารณาร่วมกันว่าควรแยกเด็กออกจากตา เข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพชั่วคราวที่บ้านพักเด็กฯ และเข้าสู่กระบวนการต่อไป ในส่วนตาจะประสาน รพ.สต. เข้าตรวจสุขภาพจิต
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านพักของปู่ สอบถามถึงสาเหตุที่ลงมือตีหลานชาย ตาซึ่งอยู่ในอาการหลงๆ ลืมๆ กล่าวว่า ไม่ได้ตีหลานแต่อย่างใด เพียงแต่เดินไปตามหลานกลับมาบ้าน หลังจากนั้นก็มีคนมาส่งหลาน ซึ่งคนก็หาว่าตาตีหลาน พ่อของน้องต้องโทษคดียาเสพติดอยู่ในเรือนจำ ส่วนคุณแม่ก็เสียชีวิตไปแล้ว
หากย้อนไปช่วงเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว พ่อของเด็กชายคนนี้เคยตกเป็นข่าว เนื่องจากพบศพทารก 5 เดือน (น้องชายต่างแม่ของเด็กที่ถูกทำร้าย) ถูกฝังดินไว้ แต่พ่อแม่ยืนยันว่าลูกป่วยไข้สูง ก่อนจะพบว่านอนแน่นิ่งและเสียชีวิตแล้ว ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงนำไปฝัง ไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูกแต่อย่างใด