เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ กล่าวต่อหน้าทูตทหาร ขอสื่อสารไปยังประชาคมโลก เราไม่ได้ยิงก่อน แม่กับลูกหลายชีวิต ต้องมาจากไปเพราะการโจมตีของกัมพูชา

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม คณะทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมด้วยเอกอัครราชทูต อุปทูต และผู้แทนทางการทูต รวม 11 ประเทศ  ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พื้นที่ที่ถูกโจมตีโดยจรวด BM-21 ของกัมพูชา ส่งผลให้ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ถูกไฟไหม้ มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บอีก 10 ราย

คณะทูตซึ่งเดินทางถึงจังหวัดอุบลราชธานีตั้งแต่ช่วงเช้า ได้เริ่มต้นภารกิจด้วยการรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ที่ มณฑลทหารบกที่ 22 (มทบ.22) ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ ก่อนลงพื้นที่จริงเพื่อสังเกตการณ์และตรวจสอบจุดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะกรณีที่กองทัพกัมพูชาใช้จรวด BM-21 และปืนใหญ่โจมตีพื้นที่พลเรือน ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง

ที่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ คณะทูตได้พบกับญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งนำภาพผู้ล่วงลับมาแสดงต่อหน้าเพื่อสะท้อนความสูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว และยังมีเด็กหญิงชาวไทยผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์มาร่วมเล่าเหตุการณ์ด้วยตนเองเป็นภาษาอังกฤษต่อหน้าคณะทูตทหาร โดยบรรยายนาทีที่เห็นกลุ่มควันดำพวยพุ่งทั่วพื้นที่ และความโกลาหลที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น

ต่อมา คุณกมนรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ จ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อหน้าสื่อต่างประเทศที่เดินทางลงพื้นที่ดูความเสียหายจากการที่กัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปั๊มน้ำมัน เธอบอกว่า 

"เราอยากประกาศให้โลกรู้ว่า เราไม่ได้ยิงก่อน คนที่สูญเสียเป็นผู้บริสุทธิ์ มีเด็ก 4 คนที่เสียชีวิต แม่อีก 2 คน ที่เสียชีวิตในขณะที่ยังกอดลูกไว้ ยอมตายเพื่อจะปกป้องลูก โปรดเข้าใจประเทศเราด้วย"