มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

หญิงวัย 76 ปี ห่วงสุนัขที่เลี้ยงไว้ ไม่ยอมอพยพจากบ้าน แม้ไฟไหม้ใหญ่ใกล้บ้านหวิดลุกลาม เจ้าหน้าที่ต้องกล่อมกว่าจะใจอ่อน เลยคลุกข้าวไว้ให้หมา แล้วค่อยออกมา


ข่าวด่วน
12 พฤษภาคม 25683,410
หญิงวัย 76 ปี ห่วงสุนัขที่เลี้ยงไว้ ไม่ยอมอพยพจากบ้าน แม้ไฟไหม้ใหญ่ใกล้บ้านหวิดลุกลาม เจ้าหน้าที่ต้องกล่อมกว่าจะใจอ่อน เลยคลุกข้าวไว้ให้หมา แล้วค่อยออกมา

จากกรณี เหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ในซอยฉลองกรุง 55 เพลิงเริ่มลุกไหม้ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ที่โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง กรุงเทพฯ ซึ่งภายในโกดังเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ครัว ไม้อัด และวัสดุไวไฟ ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำกว่า 50 คัน ใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด

 

จุดต้นเพลิงอยู่ใกล้ปล่องลิฟต์ บริเวณทางออก 3 ของอาคารโกดัง ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าไม่ถึงเนื่องจากพื้นที่โดยรอบคับแคบ ส่งผลให้ไฟยังคุกรุ่น พร้อมควันดำพวยพุ่งต่อเนื่องจนถึงเช้าวันนี้

 

เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการที่โรงเรียนลำพะอง พร้อมนำรถสุขาเคลื่อนที่ น้ำดื่ม และอาหารมาให้บริการประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากควัน

 

ต่อมาในช่วงเช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่และเปิดเผยว่า ภายในโกดังมีเม็ดพลาสติกจำนวนมาก ทำให้ควันที่ปล่อยออกมาเป็นพิษ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ควันสีดำจากเชื้อเพลิงเม็ดพลาสติก และสีเทาเข้มจากพลาสติกที่ขึ้นรูปแล้ว ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประสานสำนักสิ่งแวดล้อมเร่งตรวจสอบและเฝ้าระวัง

 

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ซอยฉลองกรุง 53 ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ พบว่าควันยังลอยหนาทั่วบริเวณ ด้านหลังโกดังมีอู่ซ่อมรถของนายกัลยศักดิ์ ควรคงพิมพ์ วัย 47 ปี เขาเล่าว่าเห็นเหตุเพลิงไหม้ตั้งแต่บ่ายสามโมงครึ่ง และรีบโทรแจ้งเหตุ ไอความร้อนพุ่งมาถึงตัวบ้าน แต่เจ้าตัวไม่ยอมอพยพออกไปเพราะเป็นห่วงรถลูกค้าที่ฝากไว้

 

ขณะที่อีกหนึ่ง กรณีของ หญิง อายุ 76 ปี ชาวบ้านในซอยฉลองกรุง 53 เช่นกัน เธอเผยว่า เห็นไฟลุกตั้งแต่เย็นวานนี้ก็รีบปิดประตูหน้าต่างทันที เพราะเป็นห่วงสุนัขที่เลี้ยงไว้ แม้เจ้าหน้าที่จะมาแจ้งให้อพยพในช่วงกลางคืน เธอก็ยืนยันที่จะไม่ออกจากบ้าน เนื่องจากไม่อยากทิ้งสุนัขให้อยู่ตามลำพัง กระทั่งเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่เข้าไปเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง บอกว่าอาจเกิดระเบิดหรือเพลิงลามอย่างรวดเร็ว และจะไม่มีใครสามารถเข้าไปช่วยได้ เธอจึงยอมออกมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้นำสุนัขออกมาด้วย ทำให้เธอต้องคลุกข้าวไว้ให้มันกินก่อนจะย้ายออก

 

ด้าน ชาวบ้านอีกคนที่อยู่ในชุมชนหลังโรงเรียนลำพะองซึ่งติดกับโรงงาน ระบุว่าได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น และเห็นไฟลุกอย่างรุนแรง โชคดีที่เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟไม่ให้ลามเข้าชุมชน ซึ่งมีประชากรราว 50 คนใน 13 หลังคาเรือน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง

 

สิ่งที่ชาวบ้านกังวลขณะนี้คือผลกระทบจากกลุ่มควันเขม่าที่ลอยปกคลุมทั่วบริเวณ ทั้งกลิ่นเหม็นและฝุ่นพิษ ซึ่งยังไม่รู้ว่าใครจะมารับผิดชอบในการทำความสะอาดหลังเหตุเพลิงไหม้สงบ ทั้งนี้มีรายงานว่าโรงงานดังกล่าวเคยเกิดไฟไหม้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่โชคดีที่ดับได้ทันในครั้งนั้น

 


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ไฟไหม้#อพยพ#ไฟไหม้ใหญ่