เก็บกู้ซากรถเก๋ง MG ตกเหวเขาคอม้า คาดประสบมาไม่น้อยกว่า 1 ปี จนท.เร่งตรวจ DNA โครงกระดูก พิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 68 เวลา 11.00 น. สภ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ชาติตระการ, ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6, เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน และผู้นำท้องที่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบรถเก๋ง ยี่ห้อ MG ที่ประสบอุบัติเหตุตกเขาคอม้า บนถนนสายโป่งแค-ชาติตระการ พื้นที่หมู่ 15 บ้านตีนตก ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ที่ลึกลงจากถนนประมาณ 50 เมตร โดยรถมีสภาพเก่าเถาวัลย์ขึ้นปกคลุม ภายในพบโครงกระดูกมนุษย์

สืบเนื่องจากวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. รถบรรทุกพ่วง บรรทุกไม้ยูคาลิปตัสเต็มคัน ได้เกิดอุบัติเหตุเบรกแตก เสียหลักตกเหวบริเวณเขาคอม้าจุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือคนขับรถบรรทุก แต่ในระหว่างนั้น ลึกลงไปอีกประมาณ 20 เมตร ก็ได้พบกับซากรถเก๋งอีกคันหนึ่ง อยู่ในสภาพพลิกหงายท้อง ฟาดอยู่กับต้นไม้ สภาพเก่า มีหญ้าและเถาวัลย์ขึ้นปกคลุม ตรวจสอบภายในรถถึงกับผงะ! เพราะพบโครงกระดูกมนุษย์ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ แต่เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเวลาเย็นและสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จึงยังไม่สามารถดำเนินการนำซากรถขึ้นมาได้ในทันที

ต่อมา ในช่วงสายของวันที่ 7 ส.ค. จึงได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้าพื้นที่อีกครั้ง และสามารถเข้าตรวจสอบซากรถได้ รถบรรทุกพ่วงอยู่สภาพตกเหวหัวทิ่มอยู่ จึงต้องใช้รถเครนขนาดใหญ่ จำนวน 2 คัน ใช้สายสลิงยึดรถพ่วงไว้ก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ลงไปตรวจสอบซากรถเก๋ง เพราะเกรงว่ารถพ่วงอาจจะไหลงลงไปได้

จากการตรวจสอบรถเก๋งคันดังกล่าว พบว่าตัวรถอยู่ในสภาพหงายท้อง ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน นอกจากนี้ใกล้กันยังพบชิ้นส่วนรถ อาทิ เครื่องยนต์ แบตเตรี่ และอุปกรณ์อื่นๆ กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ แต่ไม่พบป้ายทะเบียนรถ ภายในซากรถยังพบโครงกระดูกมนุษย์ ที่คาดว่าเป็นผู้ขับขี่ กระดูกได้หล่นมาอยู่บริเวณที่นั่งผู้โดยสาร ซึ่งยังไม่สามารถระบุอัตลักษณ์บุคคลได้

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบเลขตัวถังรถ เพื่อทำการพิสูจน์ว่าเป็นรถทะเบียนอะไร ใครเป็นผู้ครอบครองและขับขี่ และดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตอย่างละเอียด

เบื้องต้นสันนิษฐานว่า รถเก๋งคันดังกล่าวอาจประสบอุบัติเหตุตกเหว ก่อนจะเกิดเพลิงลุกไหม้ แต่ไม่มีผู้ใดพบเห็น จากการประเมินด้วยสายตา ตัวรถมีสภาพเก่าผุ คาดว่าระยะเวลาไม่น่าต่ำกว่า 1 ปี อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริง ระยะเวลาในการเกิดเหตุ และยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิต

ด้านผู้นำท้องถิ่น ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา มีคนตามหานักดนตรีคนหนึ่ง วัยประมาณ 50 ปี ที่หายตัวไปและขับรถเก๋ง MG ด้วย แต่ก็ต้องติดต่อญาติให้มาตรวจสอบอีกครั้ง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เก็บกู้ซากรถเก๋ง MG และซากรถบรรทุกพ่วงขึ้นจากจุดเกิดเหตุให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ สภ.ชาติตระการ พร้อมติดตามหาญาติผู้เสียชีวิตมาดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขาคอม้า ซึ่งเป็นโค้งอันตราย มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนเจ้าหน้าที่ต้องนำป้ายมาเตือนผู้ขับขี่ให้ระมัดระวัง ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นโค้งอาถรรพ์

ล่าสุดวันนี้ 8 ส.ค. 68 ‘พ.ต.อ.รวิกร อุกฤษฎ์มโนรถ’ ผกก.สภ.ชาติตระการ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำชิ้นส่วนกระดูกของผู้เสียชีวิตที่พบภายในรถ ขึ้นมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.ชาติตระการ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการส่งโครงกระดูกดังกล่าวไปยังนิติเวช รพ.ตำรวจ ให้เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ทำการตรวจสอบดีเอ็นเอ เพื่อยืนยันข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลอย่างเป็นทางการ

สำหรับปฏิบัติการเก็บกู้ซากรถจากเหวลึก ซึ่งเป็นรถบรรทุกพ่วงและรถเก๋ง MG คันดังกล่าว ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค. โดยขณะนี้รถเก๋ถูกนำมาจอดไว้ที่ สภ.ชาติตระการ และอยู่ระหว่างการประสานผู้เชี่ยวชาญเข้ามาทำการตรวจสอบหมายเลขแชสซี และหมายเลขเครื่องยนต์ เพื่อตรวจสอบและยืนยันว่าเป็นรถคันเดียวกับที่มีการแจ้งความไว้หรือไม่

ในเบื้องต้น มีพลเมืองดีให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตอาจเป็นชายวัยประมาณ 50 ปี อาชีพนักดนตรี ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่ช่วงเทศกาลลอยกระทงปี 2567 โดยลูกผู้สูญหายทำงานอยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ เคยมาตามหา แต่ ณ ขณะนั้นไม่ได้แจ้งความที่ สภ.ชาติตระการ และในช่วง 1-2 ปีนี้ ก็ไม่มีคดีแจ้งความคนหายในพื้นที่แต่อย่างใด จึงมั่นใจว่าน่าจะไม่ใช่คนในพื้นที่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามครอบครัวของบุคคลดังกล่าวเพื่อมาทำการตรวจสอบยืนยันอัตลักษณ์อีกครั้ง

และอีกหนึ่งเบาะแสสำคัญ คือ มีผู้ติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ จากกรุงเทพมหานคร ระบุว่า รถเก๋งคันที่พบอาจเป็นรถที่เคยปล่อยเช่าเมื่อ 2 ปีก่อน โดยมีหญิงรายหนึ่งเป็นผู้ทำสัญญาเช่าแบบรายวัน แต่ไม่ได้นำรถกลับมาคืน อีกทั้งสัญญาณ GPS จากรถคันนี้ก็ขาดหายไปบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุบนเขาคอม้า

ทางเจ้าของรถ เป็นชาย อายุ 38 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.สายไหม ว่าได้ให้ หญิงชาว จ.อ่างทอง เช่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อ MG สีดำ หมายเลขทะเบียน _ขว _ _ _ _ กรุงเทพฯ มีกำหนดส่งคืนรถให้ในวันที่ 29 มิ.ย. 2566 เวลา 10.00 น. ตามสัญญา แต่เมื่อถึงกำหนดกลับไม่นำรถมาคืน และไม่สามารถติดต่อได้ ตรวจสอบสัญญาณ GPS พบว่าสัญญาณได้ขาดหายไปบริเวณเขาคอม้า จ.พิษณุโลก จึงแจ้งความคดียักยอกทรัพย์ไว้ที่ สน.สายไหม

ขณะนี้ เจ้าของรถได้ทราบข้อมูลแล้ว คาดว่าจะสามารถเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมนำเอกสารหลักฐานของรถมายื่นให้กับตำรวจ สภ.ชาติตระการ ได้ในวันเสาร์ที่ 9 ส.ค. เพื่อตรวจสอบรายละเอียดตัวรถว่าเป็นคันเดียวกันหรือไม่ พร้อมทั้งติดตามว่าโครงกระดูกที่พบนั้นเป็นหญิงผู้เช่ารถหรือไม่

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเดินหน้าสืบสวนทุกเบาะแสที่ได้มาอย่างรอบด้าน เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยในคดีนี้ และจะเร่งหาว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร และเกิดอะไรขึ้น