เจ้าของร้านอาหารรายหนึ่ง เปิดเผยเรื่องราวเพื่อเป็นอุทาหรณ์กับเพจโหนกระแสว่า ตนเป็นเจ้าของร้านและสมัครกับแอปฯ เดลิเวอรีแอปฯ หนึ่ง เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนอยู่ที่ร้าน ไม่มีลูกค้า มีไรเดอร์หญิงมาพร้อมสามีและลูก 8 ขวบ เดินเข้ามาที่ร้านบอกว่ามีลูกค้าสั่งอาหาร พี่ได้ทำอาหารแล้วหรือยัง
ตนมองดูในโทรศัพท์มือถือ มีการสั่งจากแอปฯ จริง เพียงแต่แอปฯ ไม่แจ้งเตือน ซึ่งอาหารที่สั่งมามี 3 อย่าง ทางไรเดอร์หญิงบอกว่า ลูกค้าจะไปเอาเจ้าอื่นแล้ว ตอนนั้น ตนเลยถามไปว่า สรุปว่าจะให้ทำอยู่ไหม หรืออย่างไร หรือลูกค้าสั่งเจ้าอื่นแล้ว ไรเดอร์ก็ไม่ได้ตอบ แต่ไปคุยกับสามีตัวเอง และก็มานั่งรอ ตนก็เลยทำอาหารให้ จากนั้นตนก็เห็นว่า สามีของไรเดอร์มาถ่ายรูปร้านข้างๆ ซึ่งในวันดังกล่าวปิดร้าน ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร
พอไรเดอร์ได้อาหารไป ก็ขี่จักรยานยนต์ออกไปทั้ง 3 พ่อแม่ลูก ตนมารู้ทีหลังว่า ตนไม่ได้เงินจากแอปฯ เพราะมีการแจ้งว่า ร้านตนปิด และมีการยกเลิกออเดอร์ ทำให้ตนตัดสินใจแจ้งที่ศูนย์ของแอปฯ ยืนยันว่า ตนส่งอาหารให้ไรเดอร์ไปแล้วในราคา 210 บาท จากนั้นตนก็ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองภูเก็ต
ต่อมา ตำรวจได้เรียกไรเดอร์และตนมาเจรจา ตอนพูดคุยกัน ไรเดอร์ไม่ได้มีท่าทีสำนึก ถึงการกระทำดังกล่าว ทำให้ตนตัดสินใจ เรียกค่าเสียหาย 100 เท่า เท่ากับว่า ราคา ที่เขาต้องจ่ายตน 21,000 บาท โดยตนยืนยันว่า เป็นไปตามข้อกฎหมาย และมีการพูดคุยต่อหน้าตำรวจ และเจรจากันมาตกลงที่ 20,000 บาท จากนั้นเขาก็ยินยอมและจ่ายเงินมาให้ตน 5,000 บาทก่อน และสัญญาว่า จะผ่อนใช้ให้ตนวันละ 500 บาท แต่หลังจากนั้น เขาไม่ได้จ่ายเงินผ่อนตามที่ตกลงกันไว้
วันที่ 23 ก.ค.ตนตัดสินใจไปโรงพักอีกรอบ โดยมีการพูดคุยเรื่องการผิดสัญญาผ่อนชำระ ซึ่งตนเห็นว่า วันที่ไปรอบนี้ เขาสำนึกและขอโทษ ตนจึงยกโทษให้ และไม่เรียกเก็บเงินเพิ่ม ขอจบที่ 5,000 บาท ถามว่า ราคาสินค้า 210 บาท ที่จริงแล้วหากมีการพูดคุยรอบแรก และเขามีท่าทีสำนึกบอกกับตนตรงๆ ตนก็จะเรียกเก็บตามจำนวนจริง แต่เขาไม่ได้สำนึกผิด ตนต้องการอบรมให้เขามีจิตสำนึก เพราะที่สำคัญวันที่เขาก่อเหตุ เขาพาลูกไปด้วย และกระทำผิดต่อหน้าลูก หลังจากที่มีการเจรจาขอโทษกันแล้ว ตนก็พูดคุยกับไรเดอร์รายนี้ขอให้ปรับปรุงตัว อย่ากระทำผิดซ้ำอีก ตนอยากมาแชร์เป็นอุทาหรณ์ให้ทั้งแม่ค้า ต้องตรวจสอบแอปฯ ที่มีออเดอร์เด้งมา ต้องคอยดู แม้ว่าจะไม่มีการแจ้งเตือน และไรเดอร์ที่หากจะใช้วิธีนี้ ก็อย่าทำ เพราะถือว่ามีความผิด