มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

เห็นคลิปแล้วรู้เลย หนุ่ม 31 ไปรักษาอาการติดเหล้า สุดท้ายเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จับทุ่มลงพื้น รัวต่อ ล็อกกุญแจมือ ญาติผู้ตายลั่น ถ้าเป็นลูกหลานคุณโดนแบบนี้จะรู้สึกยังไง


ข่าวด่วน
10 ธันวาคม 256713,042
เห็นคลิปแล้วรู้เลย หนุ่ม 31 ไปรักษาอาการติดเหล้า สุดท้ายเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จับทุ่มลงพื้น รัวต่อ ล็อกกุญแจมือ ญาติผู้ตายลั่น ถ้าเป็นลูกหลานคุณโดนแบบนี้จะรู้สึกยังไง

รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี ชายวัย 31 ปี เลิกเหล้าแบบหักดิบจนช็อก ต้องหามส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายเสียชีวิต ในสภาพบอบช้ำ พ่อเชื่อถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต โดยในวันนี้ได้ หมอหมู รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข มาร่วมพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียหายด้วย

 

พ่อทองสุข พ่อของผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายชื่อ นายสะอาด ดื่มเหล้าขาวติดเป็นนิสัย ออกไปเกี่ยวข้าวก็จะดื่มตลอด ดื่มเรื่อยๆ ทุกวัน จนมาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาตัดสินใจงดเหล้า ไม่เกินเลย หักดิบ เลิกได้ 2 วัน หยุด ไม่ยอมดื่มเลย บอกว่าจะเลิก จนกระทั้งเข้าวันที่ 2 เขาก็มีอาการช็อก มือสั่น 

 

หมอหมูบอกว่า เป็นอาการปกติของคนที่ติดเหล้า หรือสารเสพติดบางอย่างเป็นเวลานาน พอขาดเหล้าครบ 48 ชั่วโมง จะมีอาการที่คนเรียกว่า “ลงแดง” คือ ช็อก มือสั่น หูแว่ว ได้ยินเสียงแว่ว 

 

หลังลูกชายช็อก พ่อก็นำส่งโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ตอนนั้นลูกชายอาการปกติดี หมอรักษาอาการช็อกจนหายดี เขาก็ปกติดี ไม่มีอะไรผิดปกติ นอนอยู่ที่ตึกใหญ่ อายุรกรรมชาย นอนอยู่ 2 วัน วันที่ 6 ธันวาคม 2567 เวลาตีสาม แพทย์มาแจ้งว่าจะย้ายตึก ไปอยู่ตึกสงฆ์ ซึ่งเป็นตึกที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวช เพราะลูกชายมีอาการพูดไม่รู้เรื่อง เล่นแต่โทรศัพท์ ไม่หลับไม่นอน เมื่อไปถึงตึก มีเจ้าหน้าที่แจ้งให้ไปรอข้างนอก โดยเจ้าหน้าที่จะจัดการกันเอง ในขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ 4 คน ชาย 2 หญิง 2 อยู่ภายใน 

 

ต่อมาคุณพ่อได้ยินเสียงร้องของลูกชาย และพบว่าลูกชายถูกรุมทำร้าย แต่ไม่ทราบว่าด้วยวิธีใด ถามหมอว่าทำไมทำลูกผมแรงจัง หมอก็บอกว่า นี่ไม่แรงหรอก พบหน้าของลูกชายพบว่าบริเวณใบหน้าของลูกชายปูดบวม คิ้วแตก หน้าผาก โหนกแก้ม ปากบวม ลูกชายร้องด้วยความเจ็บปวด แต่พ่อไม่ได้ทักท้วงอะไร คิดว่าจะไม่รุนแรงขนาดนี้ 

 

ต่อมาวันที่ 7 ธันวาคม 2567 ลูกชายเสียชีวิต หลังเกิดเหตุ มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลโทรศัพท์ติดต่อตนไม่ทราบว่าใครและแจ้งว่า ทำรุนแรงไปหน่อย และยังไม่มีการพูดคุยกับทางโรงพยาบาลแต่อย่างใด 

 

ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าลูกชายถูกทำร้ายจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ตนยังติดใจที่ลูกชายถูกทำร้ายจนเสียชีวิตและอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายของตน อีกทั้งลูกชายตนเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังเกิดเหตุ ยังไม่มีการติดต่อจากทางโรงพยาบาลแต่อย่างใด

 

ขณะที่ป้ามะลิ ป้าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มีข้อผิดสังเกตหลายอย่าง ในการเสียชีวิตของญาติตน ทั้งในเรื่องของบาดแผลหลายจุด และการให้รีบเอาศพออกในเวลาการเกิดแบบเร่งด่วน 

 

โรงพยาบาลให้มารับศพออกไปตอน 23.30 น. ป้ามะลิคุยกับลูกชายตัวเองเห็นว่ามันผิดปกติมาก ทำไม รพ.ต้องเร่งรัดให้เอาศพออกตอนกลางดึก จึงบอกให้พ่อทองสุขไปแจ้งความ ที่ สภ.กันทรลักษณ์

 

ปรากฏว่าไปถึงโรงพัก ตำรวจบอกว่าร้อยเวรหลับอยู่ ยังไม่รับแจ้ง เมื่อกลับมาแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่ก็บอกว่า มันไม่ได้ ยังไงตำรวจก็ต้องรับแจ้ง ไม่รับไม่ได้ ผู้ใหญ่บ้านก็พาไปที่โรงพัก คราวนี้ร้อยเวรออกมา แล้วบอกว่า ตอนแรกบอกให้พ่อไปเอารายละเอียดจากโรงพยาบาลมาก่อน แล้วผมจะลงบันทึกประจำวันให้ แต่ทางครอบครัวก็บอกว่ามันผิดขั้นตอน เราต้องมาลงบันทึกประจำวัน ทำไมตำรวจไม่ลงให้แต่แรก

 

หมอหมู ฟังมาถึงตรงนี้ ถึงกับบอกว่า “อึดอัดมาก” เพราะขั้นตอนทุกอย่างมันมีปัญหาไปหมด ผิดขั้นตอนไปหมด ผู้เสียชีวิตเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยทางครอบครัวติดค้างคาใจการเสียชีวิต ก็ต้องมีการชันสูตรพลิกศพ ณ ที่เกิดเหตุ เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย ต้องมีการเชิญตำรวจมาร่วมชันสูตรพลิกศพ ณ ที่เกิดเหตุ ซึ่งที่เกิดเหตุก็คือโรงพยาบาล

 

แต่พอฟังเรื่องราวจากที่ญาติพูดมา โรงพยาบาลก็พยายามผลักภาระให้ญาติมารับศพ มาเคลื่อนศพออกไปจากที่เกิดเหตุ โดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุได้อย่างไร แล้วญาติไปแจ้งตำรวจ ตำรวจยังไม่ยอมทำตามขั้นตอนให้อีก มันก็ผิดไปหมด

 

ป้ามะลิจึงเล่าต่อไปว่า สุดท้ายไปตามตำรวจ 2 รอบ จนตำรวจยอมไปตรวจที่โรงพยาบาลกันทรลักษณ์ ชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ จนเรียบร้อย จึงส่งไปที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ซึ่งดูจากสภาพศพแล้ว มีรอยถูกกระแทกด้วยของแข็งที่ท้ายทอย จึงเชื่อว่าน่าจะมีปัญหาแน่นอน

 

ขณะที่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เกิดเรื่อง ได้ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาล จะลงพื้นที่บ้านของผู้เสียชีวิต เพื่อพูดคุยกับทางญาติ และได้มอบสิ่งของเยียวยาจิตใจ 

 

ส่วนรายละเอียดเรื่องของสาเหตุของการเสียชีวิตนั้น จะต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และอาจจะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยผู้บริหารระดับสูง จะเป็นคนแถลงชี้แจงในเรื่องนี้ ซึ่งตอนนี้ก็มีการหาข้อมูลในรอบด้าน แต่ในส่วนของที่สื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลออกไป ก็เป็นข้อเท็จจริงในส่วนหนึ่ง ที่เราต้องหาข้อมูลในเรื่องนี้ แต่หากจะถามว่ามีการทำร้ายร่างกายกันไหม ต้องมาว่าเป็นความชุลมุนมากกว่า แต่ทำร้ายหรือไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป

 

ต่อมาในรายการได้เปิดคลิปเหตุการณ์ จะเห็นนายสะอาดพยายามเดินออกจากห้อง แล้วมีเจ้าหน้าที่ชาย 2 คนเข้ามาชาร์จตัว ดึงและเหวี่ยงลงไปกระแทกพื้น แล้วมีการชกต่อยไปที่ศีรษะผู้ตาย คนหนึ่งพยายามกดลงกับพื้น แล้วมีการใช้กุญแจมือพันธนาการ มีการชกเข้าไปที่ใบหน้า เบ้าตา หลายต่อหลายหมัด ก่อนจะมีพยาบาลหญิงเดินตามหลังมา ใช้เท้าเหยียบกดที่เท้าของผู้ป่วย เพื่อไม่ให้เขาถีบ

 

ภาพจากคลิปนี้ ทำให้พ่อทองสุขถึงกับหลั่งน้ำตา เป็นอันชัดเจนแล้วว่า ลูกชายน่าจะถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ และเป็นเหตุให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

หมอหมูชี้ว่า คนที่มีอาการติดสุรา จะมีปัญหาเส้นเลือดเปราะกว่าคนปกติ แล้วการที่เข้าไปชาร์จด้วยความรุนแรง ใช้กุญแจมือ ไม่มีโรงพยาบาลไหนทำกัน สิ่งเหล่านี้ผิดแน่นอน แลวยังมีภาพว่าก่อนเสียชีวิต คนป่วยนอนบนเตียง มีเลือดไหลออกมาเยอะมาก แล้วถูกรัดจนเนื้อมีแผล ก็ต้องถามว่าทำไมถึงทำกันขนาดนี้

 

ขณะที่ นายกองตรี ธนกฤต ชี้ว่า ในทางกฎหมาย ต้องให้ตำรวจพิสูจน์กันไปว่า 4 คน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ละคนมีพฤติกรรมอย่างไร ทำแบบไหน ใครจะมีความผิดแบบไหน บอกได้แค่ว่า เรื่องนี้ล้างคุกรอได้เลย ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่มีทางดิ้นหลุดได้เลย เรื่องนี้ตนจะลงไปดูเอง

 


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ทำร้ายผู้ป่วย#โรงพยาบาล#ตายในโรงพยาบาล