มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

โผล่อีก! เหยื่ออดีตดารา-เน็ตไอดอล หลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนมปลอม-นาฬิกาปลอม


ภูมิภาค
4 ตุลาคม 256721,797
โผล่อีก! เหยื่ออดีตดารา-เน็ตไอดอล หลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนมปลอม-นาฬิกาปลอม

นายโชติอนันต์ เลิศฤทธิ์ภูวดล หรือ เสี่ยเป้ บางกรวย ประธานจิตอาสา ผู้ก่อตั้งเพจ นนทบุรีไม่ทิ้งกัน พร้อมทีมทนาย ได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งใน ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังจากได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกอดีตดาราสาว-เน็ตไอดอล หลอกขายนาฬิกาและกระเป๋าแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท

 

อาจารย์หญิง อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นหุ้นส่วนบริษัทรับตกแต่งบิลด์อิน​และเป็นหมอดู-สักลายมือ​ เล่าให้ฟังว่า ​เริ่มแรกหญิงสาวคนดังกล่าวได้ติดต่อมาผ่านทางหุ้นส่วนของตนซึ่งเป็นบริษัทบิลด์อิน​ เนื่องจากเห็นว่าหุ้นส่วนคนนี้ค่อนข้างมีฐานะ โปรไฟล์ดี จึงทักเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือ ต้องการนำนาฬิกามาจำนำ โดยระบุว่า นาฬิกาเรือนละ 430,000 บาท อยากจะนำมาจำนำในจำนวน 300,000 บาท

 

ทางหุ้นส่วนไม่มีความรู้ด้านนาฬิกา จึงได้ให้หญิงสาวคนดังกล่าวเข้ามาที่บริษัท และเข้ามาพูดคุยกับตน พอหญิงสาวคนดังกล่าวมาถึงที่ออฟฟิศได้เจอตน ก็สอบถามทันทีว่าอาจารย์แม่ดูดวงด้วยหรือ เคยเห็นอาจารย์แม่ผ่านทางโซเชียลมีเดีย จึงได้มีโอกาสเข้าไปนั่งคุยกันในห้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์

 

ด้วยความที่ตนมีเซนส์จึงได้ทักหญิงสาวว่ากำลังมีปัญหาต่างๆ มากมาย เขาก็ยอมรับว่ามีปัญหาหนี้สิน ได้ไปกู้หนี้นอกระบบเป็น 10 กว่าเจ้า จึงต้องการนำนาฬิกาเรือนนี้มาจำนำ พอตนเห็นแบบนั้นก็รู้สึกสงสาร จึงรับนาฬิกานี้ไว้ แล้วบอกว่าลูกศิษย์ของตนมีคนที่รับจำนำนาฬิกาเยอะ จึงจะติดต่อให้ โดยไม่ได้เอะใจเลยว่านาฬิกาเรือนดังกล่าวจะปลอม หรือมีปัญหาใดๆ คิดเพียงแต่ว่าอยากจะช่วยเหลือ

 

 

หลังจากนั้นช่วงกลางคืน หญิงสาวคนเดิมได้ส่งรูปภาพเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมมาให้ดู 2 ใบ อยากให้นำกระเป๋าไปฝากขายให้ด้วย โดยบอกว่าใบนึงซื้อมาราคา 120,000 กว่าบาท อีกใบหนึ่งซื้อมาในราคา 130,000 กว่าบาท แต่อยากจะได้เงินใบละประมาณ 55,000 กว่าบาท

 

ตนได้ส่งนาฬิกาและกระเป๋าไปให้ลูกศิษย์ดูเผื่อว่าใครจะสนใจ จู่ๆ มีลูกศิษย์ถามกลับมาว่านี่เป็นกระเป๋าของใคร และบอกว่ากระเป๋านั้นเป็นของปลอมทั้งหมด​ ทำให้ตนถึงกับตกใจ แย่ไปกว่านั้น นาฬิกาที่ให้ลูกศิษย์ไปเพื่อจำนำก็เป็นของปลอมเช่นเดียวกัน​

 

ลูกศิษย์ที่เชี่ยวชาญด้านกระเป๋าแบรนด์เนมได้บอกให้ตนลองไปสอบถามหญิงสาว ว่ามีกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้หรือไม่ พอตนไปถามปรากฏว่าหญิงสาวคนดังกล่าวมีกระเป๋าแบรนด์เนมแทบทุกใบ จนถึงบางอ้อ เริ่มจะเข้าใจว่าหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นใช้กระเป๋าแบรนด์เนมปลอมไปแลกกับเงินสดจำนวนมาก

 

แต่ที่เป็นปัญหาสำหรับตนมากก็คือนาฬิกา ที่ได้ส่งให้น้องคนหนึ่งซึ่งพร้อมที่จะโอนเงินมาให้ตน เพราะหลงเชื่อคิดว่าเป็นของจริง ปรากฏพอน้องทราบว่าเป็นของปลอมก็ไม่พอใจตน คิดว่าตนไปหลอกขายของปลอมให้ จึงทำให้ตนเสียชื่อเสียง และหญิงสาวคนดังกล่าวก็โทรทวงเงินตนตลอดทั้งคืน แต่ตนก็ไม่โอนให้ และพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์มือถือโดยตรง บอกให้หญิงสาวยอมรับผิดว่าได้นำนาฬิกาและกระเป๋าปลอมมาหลอกให้ตนฝากขายให้ สุดท้ายหญิงสาวได้ยอมรับเขาได้ทำจริง เพราะร้อนเงินและจำเป็นต้องใช้เงิน

 

 

ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย เป็นหญิง อายุ 42 ปี อาชีพนักธุรกิจส่วนตัว รับซื้อ-ขายกระเป๋าแบรนด์เนม เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนเองเปิดร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนม หญิงสาวคนดังกล่าวได้แอดไลน์ของทางร้านมา และมีการสอบถามว่ารับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบนี้หรือไม่ ครั้งแรกส่งมา 1 ใบ ได้มีการพูดคุยรายละเอียดกันผ่านทางไลน์ หลังจากนั้นหญิงสาวคนนี้ก็พยายามเร่งเพื่อให้ทางร้านโอนเงินให้

 

พอช่วงค่ำของวันเดียวกัน หญิงสาวคนดังกล่าวก็ได้ส่งกระเป๋ามาให้อีก 2 ใบ สอบถามว่ารับจำนำกระเป๋าเพิ่มหรือไม่ อ้างว่าต้องเดินทางไปต่างประเทศจึงมีความจำเป็นต้องใช้เงิน อยากให้โอนเงินให้เลย ทางร้านจึงบอกว่าขออนุญาตเช็กสินค้าก่อน แต่หญิงสาวคนดังกล่าวอ้างว่าได้นำกระเป๋าทั้งหมดไปตรวจสอบกับร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมร้านหนึ่งซึ่งรู้จักสนิทสนมกับตน ทำให้ชะล่าใจ ไม่ได้ตรวจดูกระเป๋าแบรนด์เนมทั้งหมด

 

หลังจากนั้น ทางร้านก็ได้ให้หญิงสาวคนดังกล่าวเซ็นเอกสารระบุข้อความว่า กระเป๋าใบดังกล่าวนั้นเป็นของแท้ โดยมีการแนบสำเนาบัตรประชาชน ทำให้ตนทราบว่าเป็นถึงดารา-เน็ตไอดอล ตนจึงตัดสินใจโอนเงินไปให้อีก 1 แสนกว่าบาท พอวันถัดมาจึงได้มาตรวจดูกระเป๋า พบว่ากระเป๋ามีความผิดปกติทั้งเนื้อของกระเป๋าและตัวการ์ด จึงพยายามติดต่อหญิงสาว แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้เลย จึงได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้

 

ต่อมาหญิงสาวคนดังกล่าวติดต่อกลับมา บอกว่าตนเองนั้นเดินทางไปต่างประเทศจึงไม่สามารถติดต่อได้​ แต่ตนเห็นว่าในอินสตาแกรมของหญิงสาวคนนี้ยังใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศจริง​ นอกจากนี้ยังทราบจากเพื่อนๆ กลุ่มร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมว่า หญิงสาวคนนี้นำกระเป๋ามาหลอกขายแล้วหลายครั้ง​ โดยมูลค่าความเสียหายของตนเองนั้น รวมแล้วกระเป๋า ทั้ง 3 ใบ เป็นเงิน 162,000 บาท ซึ่งตอนนี้ได้มีการแจ้งความแล้ว อยู่ระหว่างตำรวจออกหมายเรียก

 

 

ด้านนายโชติอนันต์ เลิศฤทธิ์ภูวดล ได้ไปตรวจสอบประวัติของดาราสาวท่านนี้ ปรากฏว่ามีคดีความฉ้อโกงอยู่แล้ว และเห็นว่าเคสนี้ผู้เสียหายมีจำนวนมากและต้องการความช่วยเหลือ จึงได้แนะนำ ‘ทนายหวาย’ มาให้การช่วยเหลือกับผู้เสียหายในวันนี้

 

นายชวินทร์ ธวัชราภรณ์ ทนายความ​ เปิดเผยว่า ผู้กระทำความผิดคนนี้ถูกแจ้งความดำเนินคดีมาแล้ว หลายท้องที่ และเป็นการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน โดยการนำกระเป๋าแบรนด์เนมปลอมไปหลอกขายอยู่เรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้น พอหญิงสาวคนดังกล่าวถูกจับได้แล้วว่าขายกระเป๋าแบรนด์เนมปลอม ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวไปสอบปากคำ ก็จะใช้การเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหาย มีการชดใช้เงินค่าเสียหาย จึงไม่เกิดเป็นคดีความ ทำให้หญิงสาวคนดังกล่าวได้ใจ

 

ทั้งยังนำเอกสารที่ได้รับจากผู้เสียหาย ที่ระบุว่ากระเป๋าเป็นของปลอม ไปปลอมแปลงระบุข้อความว่ากระเป๋าเป็นของแท้แทน แล้วทำเหมือนเดิมคือไปขายต่อหรือจำนำต่อให้กับบุคคลอื่น

 

 

หญิงสาวคนดังกล่าวจะอ้างว่าไปซื้อกระเป๋ามาจากบุคคลอื่น ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมของปลอมไม่ได้ เพราะว่ามีหลักฐานชัดเจนว่าหลังจากที่นำกระเป๋าแบรนด์เนมไปหลอกขายให้กับผู้เสียหายคนอื่นๆ แล้ว พอถูกจับได้ก็นำกระเป๋าใบเดิมไปหลอกขายให้กับผู้เสียหายอีกคนหนึ่งอีก นั่นแสดงว่าเขารู้ตัวอยู่แล้ว

 

หลังจากนี้ทางทนายและเสี่ยเป้ บางกรวย จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดต่อไป

 


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#นาฬิกาปลอม#กรtเป๋าแบรนด์เนมปลอม#ฉ้อโกง