ครูสาวร้องสื่อ ถูก ผอ. อนาจารนานนับปีจนป่วยซึมเศร้า ตัดสินใจแจ้งความ ศาลสั่งจำคุก ผอ. แต่ตัวเองโดนปลดฐานคบชู้

ผู้สี่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ตราด ซึ่งได้รับหนังสือปลดออกจากราชการ จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา เนื่องจากคบชู้ เป็นความผิดวินัยร้ายแรง น.ส.เอ จึงได้ร้องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และศาลปกครอง เนื่องจากเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ จึงอยากวอนผ่านสื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียง เพราะกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับ น.ส.เอ ซึ่งได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นข้าราชการครูอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ตราด เมื่อปี 2565 ตนถูกผู้อำนวยการโรงเรียนกระทำอนาจาร (กอด-หอมศีรษะ) เกือบทุกครั้งที่ตนเข้าไปในห้องทำงานของผู้อำนวยการ ซึ่งมีการติดกล้องบันทึกภาพไว้ แล้วนำมาแบล็กเมลข่มขู่ไม่ให้บอกใคร ทั้งยังอ้างว่ามีอาวุธปืน และแอบอ้างชื่อผู้มีอำนาจด้วย ทำให้ตนไม่กล้าบอกใครหรือร้องเรียนที่ใดเลย

จนวันหนึ่ง หลังจากที่ตนถูกกระทำมาตลอดกว่า 1 ปีเศษ จำนวนนับสิบๆ ครั้ง ทำให้ตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เคยคิดจบชีวิตตัวเองแต่สามีมาเห็นและช่วยไว้ทัน เรื่องทั้งหมดจึงแดงขึ้นมาในปี 2566 หลังจากที่ตนได้เข้าไปแจ้งที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด และเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ จนคดีผ่านศาลชั้นต้น ระบุว่าตนถูกผู้อำนวยการโรงเรียนกระทำอนาจารจริง และสั่งจำคุกผู้อำนวยการ (ศาลตัดสินเมื่อเดือน เม.ย. 2568) แต่คู่กรณีประกันตัวออกไปและอุทธรณ์ ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนอุทธรณ์

ด้านสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจังหวัดตราด หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากตน กลับมีหนังสือปลดตนออกจากราชการ เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2567 โดยให้เหตุผลว่า ตนคบชู้และยินยอมให้ผู้อำนวยการล่วงเกิน ทำให้ตนต้องออกจากราชการและว่างงานมาจนถึงวันนี้ ทั้งที่ผ่านมาตนได้ทำเรื่องคำขอไปที่สำนักงานเขตฯ แล้วว่าให้รอคำตัดสินจากศาลก่อน และอิงคำพิพากษาจากศาลได้หรือไม่

ตนกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาผู้อำนวยการที่เป็นคู่กรณีเคยรอดจากเหตุการณ์คล้ายกันนี้มาแล้ว ทำให้ตนกลัวว่าตนจะโดนแบบเดียวกัน ที่ผ่านมาตนได้ไปร้องเรียนอุทธรณ์ที่ ก.ค.ศ. และฟ้องที่ศาลปกครอง ตอนนี้อยู่ขั้นตอนของกฎหมาย (ผ่านมาแล้ว 5 เดือน)

ตนยังคงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของ ก.ค.ศ กระทรวงศึกษาธิการ และศาลปกครอง แต่กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ ตนหมดศรัทธาไปแล้ว และอยากฝากบอกว่า อยากให้เจ้าหน้าที่เขตฯ อนุกรรมการ หรือผู้มีอำนาจ ให้ใช้อำนาจในทางที่ถูกต้อง ไม่อยากให้ใครต้องมาถูกกระทำแบบตนอีก