ในรายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกันต่อในประเด็นแยกย่อยต่อมาจากกรณีของ พีช สมิทธิพัฒน์ ที่ขับรถไปชนรถกระบะของคุณลุงคุณป้า คนที่เข้ามาช่วยเหลือ คือ กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า
ภายหลังจากทำคดีคุณตาคุณยายที่ถูกรถ BMW ของลูกนักการเมืองชนได้รับบาดเจ็บ มีหลายคนที่ออกมาเคลื่อนไหวเหมือนเป็นทีมงานของผู้ก่อเหตุ ตนจึงตรวจสอบข้อมูลจนพบว่า มีบุคคลใส่เสื้อที่มีข้อความน่าสงสัย เช่น "เบ็ดๆ ที่ไม่ใช่เบ็ดตกปลา" จึงแคปภาพไว้ พร้อมรวบรวมข้อมูลส่งมอบให้ตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่
สำหรับกรณีที่ "เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์" กล่าวอ้างว่ามีคนตั้งค่าหัวตน 1 ล้านบาทและวางมัดจำแล้ว 500,000 บาท กันกล่าวว่าไม่ต้องเป็นห่วง และอยากให้กลับไปโฟกัสงานแถวพระราม 7 แทนจะดีกว่า เพราะเท่าที่ผ่านมามีการกล่าวอ้างหลายอย่างที่ไม่เป็นความจริง เช่น การอ้างว่ามีพี่ชายของเต้มารับคำสั่งหรือโทรหาตน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นจริง
การไปขู่แบบนี้ คนที่กลัวไม่ใช่ตน แต่คนที่กลัวคือคุณลุงคุณป้า เขาเกิดอาการ PTSD กลัวจะมีใครมาทำร้าย กลัวมีใครจะมาเก็บ ส่วนตัวของตนรู้ว่าเป็นคำพูดไร้สาระ แต่ลุงป้าเขาไม่เคยเจอแบบนี้ เขากลัวจนปฏิเสธการรักษา เขาไม่กล้าให้ใครมายุ่งกับเขาเลย เพราะกลัวมากๆ
ขณะที่ ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมอาชญากร อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ม.มหิดล ระบุว่า การกที่เราจะพิมพ์อะไรลงไปในอินเตอร์เน็ต หรือจะออกมาพูดอะไรที่ไร้สาระ ไม่ได้ทำอะไรให้มันดีขึ้น อยู่เฉยๆ ไม่พูดอะไรเลยจะดีกว่า เพราะการออกมาพูดโดยไม่ผ่านกระบวนการกลั่นกรอง มันแสดงถึงวุฒิภาวะ ว่าคุณเป็นคนระดับไหน คนเราทุกคนมีสมอง แต่มันทำงานได้ปกติไหม มันอีกเรื่องหนึ่ง บางทีเรามองหน้าเราไม่รู้นะครับ ว่าข้างในสมองมันแหว่ง มันเน่ายังไง
ถ้ามีเวลาอยากให้ไปเรียนหนังสือ การลงทุนที่ดีที่สุด คือการลงทุนเพื่อหาความรู้ใส่ตัว จะได้ไม่โง่ ไม่ใช่ลงทุนเติมอินเตอร์เน็ต ซื้อคีย์บอร์ด มาพิมพ์อะไรโง่ๆ ที่ทำให้คนดูคนฟัง รู้สึกเสียเวลา เสียดายอินเตอร์เน็ต เสียดายกระดูกหูชั้นใน เวลาที่ฟัง