รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกันต่อ ปมร้อนสีกากอล์ฟ ทำพระผู้ใหญ่ 7 รูปลาสิกขา – ขุดเส้นทางเงินโยง 18 วัดทั่วประเทศ
วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 รายการ โหนกระแส เชิญนักวิชาการด้านพระพุทธศาสนามาร่วมพูดคุยประเด็นร้อนกรณี สีกากอล์ฟ หลังมีภาพและคลิปในโทรศัพท์มือถือของเธอที่เกี่ยวโยงกับพระสงฆ์หลายรูป จนนำไปสู่การลาสิกขาของพระผู้ใหญ่หลายรูป
ล่าสุดมีพระที่ต้องลาสิกขาแล้ว 7 รูปจาก 7 วัด ได้แก่
“บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ระบุว่า เส้นทางการเงินที่ตรวจพบช่วงปี 2564-2568 แสดงให้เห็นว่า มีพระ 12 รูปโอนเงินให้สีกากอล์ฟ รวมกว่า 5.6 ล้านบาท และสีกากอล์ฟโอนกลับให้พระอีกกว่า 5.7 ล้านบาท โดยไม่มีความชัดเจนว่าเป็นค่าใช้จ่ายในเรื่องใด
กรณีล่าสุดที่กำลังจับตามอง คือ พระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร ซึ่งหายตัวไปหลังข่าวสีกากอล์ฟโยงพระสมุทรสาครแพร่สะพัด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองต้องล็อกกุฎิและดูแลวัดตลอดคืน โดยภายหลังเจ้าอาวาสได้โทรขอลาไปราชการศาสนาในต่างจังหวัด แต่ไม่แจ้งว่าที่ใด และยังไม่สามารถติดต่อได้จนถึงขณะนี้
ฝ่ายปกครอง-สำนักพุทธจังหวัด ระบุ หากพระขาดการติดต่อเกิน 15 วัน จะต้องแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่แทนทันที
สรุปข้อมูลตำรวจพบพระเกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟแล้วอย่างน้อย 18 วัด แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก
ขณะทีประเด็นสำคัญคือเรื่อง อดีตพระประดิษฐ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี ซึ่งตอนนี้ลาสิกขา เป็น ทิดประดิษฐ์ ยอมรับกับตำรวจว่า เขารู้จักกับ สีกากอล์ฟ ตั้งแต่ปี 2562 ผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยฝ่ายหญิงเป็นผู้เข้ามาตีสนิทก่อน ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ก่อนจะเริ่มพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดประมาณ 1 ปี จนกลายเป็นความสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่ยาวนานกว่า 5 ปี
ในช่วงที่ความสัมพันธ์แนบแน่น สีกากอล์ฟเคยนำรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดมาให้ใช้ 1 คัน เพื่อให้ทิดประดิษฐ์ใช้รับกิจนิมนต์ตามวัดต่าง ๆ และยังเคยมีแผนว่าอาจจะลาสิกขาเพื่อมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแบบสามีภรรยา
อย่างไรก็ตาม ระยะหลังเริ่มมีปัญหา คนขับรถของทิดประดิษฐ์เล่าว่า สีกากอล์ฟไม่ได้คบหาเพียงเขาคนเดียว แต่ยังแอบพูดคุยเชิงชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป ทำให้เกิดความหึงหวงอย่างหนัก ถึงขั้นมีเหตุทะเลาะเบาะแว้งหลายครั้ง และเคยบุกไปตบหน้าทิดประดิษฐ์ถึงวัดในจังหวัดอยุธยา
ทิดประดิษฐ์ยังบอกอีกว่า ถูกข่มขู่เรียกเงินหลายครั้ง จนเคยคิดจะลาสิกขาออกมาแฉความสัมพันธ์ทั้งหมด แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่จับสึกเสียก่อน เขายังระบุว่าสีกากอล์ฟมีนิสัยพูดจาไพเราะและเอาอกเอาใจเก่ง แต่หากไม่พอใจอะไร ก็จะแสดงอารมณ์รุนแรงและใช้คำพูดหยาบคายไม่ยั้ง
ขณะเดียวกัน ในโลกออนไลน์ ได้มีเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นลูกศิษย์ของอดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ออกมาโพสต์ข้อความปฏิเสธแชตและภาพนวดเท้าที่ถูกเผยแพร่ในสื่อ โดยระบุว่าเป็นข้อความที่สีกากอล์ฟแต่งขึ้นเพื่อแบล็กเมล์ พร้อมยืนยันว่าเคยถูกใช้วิธีปลอมไลน์และปลอมเฟซบุ๊กมาก่อน และเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายให้ถึงที่สุด
ในรายการโหนกระแส สีกากอล์ฟ ขอโฟนอินชี้แจงเฉพาะเรื่องราวของ หลวงพ่อประดิษฐ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ที่ให้ทางลูกศิษย์ออกมาตอบโต้ว่า ท่านถูกสีกาพยายามวางงาน ใช้ภาพ และ คลิป ที่ปลอมขึ่้นมาด้วย AI และยังเคยมีกรณีที่สีกากอล์ฟบุกไปทำร้ายร่างกาย ตบหน้าหลวงพ่อ เพราะหลวงพ่อพยายามตีตัวออกห่างจากสีกา เช่นเดียวกับป้าคอง คนในวัด ที่รับใช้ใกล้ชิดอดีตเจ้าอาวาส ยืนยันว่า เรื่องราวที่ออกไปเป็นเรื่องไม่จริงแน่นอน
สีกากอล์ฟบอกว่า ที่ตัดสินใจออกมาตอบกลับครั้งนี้ เพราะถูกพาดพิงก่อน ยืนยันว่า อดีตหลวงพ่อประดิษฐ์กับตนใช้ชีวิตกันแบบแฟน รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2562 ผ่านทางเฟซบุ๊ก มีการทักคุยกันเรื่อยมา ขอชี้แจงว่า ที่ตนคบหากับอดีตหลวงพ่อประดิษฐ์ ไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน เพราะรู้อยู่แล้วว่าท่านไม่มีเงิน วัดท่านก็ไม่มีเงิน แล้วตนกับท่านก็ยังเคยมีปัญหากันบ่อยๆ จนทำให้ท่านหายหน้าหายตาไปจากตนหลายครั้ง ครั้งละหลายเดือน
ตนทราบว่า อดีตหลวงพ่อประดิษฐ์มีหนี้เป็นล้าน จึงเสนอว่าจะให้เงินท่านเป็นรายเดือน เดือนละ 1 แสนบาท แต่ก็โอนได้แค่ 2-3 เดือน และทางท่านอดีตหลวงพ่อก็ยังมาอาศัยอยู่ที่บ้านตน อยู่แบบพักอาศัยยาวๆ จะออกไปเฉพาะเวลามีงาน โดยอยู่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนถึง 14 ธันวาคม 2567
โดยวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ท่านบอกว่า ท่านจะไปหาหมอ จะไปเยี่ยมครอบครัว แล้ววันที่ 15 ธันวาคม ท่านบอกวา่าจะกลับมาที่บ้าน แต่ก็ไม่กลับมา แล้วหายไปเลย ติดต่อไม่ได้ จนทำให้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ตนต้องไปดักรอท่านที่วัดแห่งหนึ่ง จนมีการยื้อยุด ฉุดดึงกับลูกศิษย์วัด ที่พยายามมาแยกตนออก แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการตบหน้าอย่างที่อ้างแน่นอน
สีกากอล์ฟบอกอีกว่า ภาพที่นอนซบมือ ภาพที่นวดเท้า ภาพที่นอนตะแคงบนเตียง เป็นอดีตหลวงพ่อประดิษฐ์ทั้งหมด ถ่ายที่บ้านของตน และคลิปที่แทงสนุกเกอร์ ก็เป็นท่าน ซึ่งเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนทริปครอบครัวกับตนและลูกๆ
โดยเบื้องหลังของภาพที่ท่านมานอนซบมือ ก็เพราะว่าเราทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องบุคคลที่สาม และอดีตหลวงพ่อท่านมาง้อ ขอโอกาส เพราะตนจับได้เรื่องบุคคลที่สาม
ส่วนเรื่องประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพระรูปอื่นๆ สีกากอล์ฟขอไม่ตอบคำถามอีก
ขณะที่ นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า บอกว่า เรื่องเหล่านี้ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการไปหลายอย่าง แต่หลายเรื่องไม่สามารถเอาออกมาเปิดเผยให้ประชาชนรับรู้ได้ เพราะมันอาจจะกระทบกับจิตใจของประชาชนได้
แล้วพระอีกหลายรูปที่ตอนนี้ยังไม่สึก ยังไม่ลาสิกขา โทรหาตนทุกรูปเลยว่าจะทำอย่างไรดี ตนถามกลับไปทุกครั้งว่า ท่านปาราชิกไหม ท่านอาบัติไหม ถ้าท่านมั่นใจว่าไม่ผิด เราจะมาหาทางออกกันว่าเราจะหาทางออกอย่างไร และเราจะเอาผิดคนที่ไม่หวังดีอย่างไร
ยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ตนไม่เคยระแคะระคายมาก่อนเลย แต่ขอยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือพระผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพระตำแหน่งสูงอย่างไร หากทำผิดก็ไม่มีการเกรงใจ หรือช่วยเหลือกันอย่างแน่นอน
ส่วนพระที่สึกไปแล้ว ไม่ได้แปลว่าจะจบๆ กันไป ถ้าตรวจสอบแล้ว เป็นระดับเจ้าอาวาส หรือยุ่งเกี่ยวกับเงินวัด ต้องมีการตรวจสอบ ว่ามีการใช้เงินวัดผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เพราะมีกฏหมายบ้านเมืองควบคุมไว้ ในฐานะที่พระระดับเจ้าอาวาส กฎหมายกำหนดให้เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ
ขณะนี้ ทางสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เตรียมผลักดันร่างกฎหมายฉบับใหม่ เข้ามาควบคุมดูแล ทั้งเรื่องของคนไม่หวังดี ที่เข้ามาด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ ทำให้พระเสื่อมเสีย ก็จะมีกฎหมายเอาผิดบุคคลนั้นด้วย
แล้วในร่างนี้ ยังมีเรื่องการควบคุมระที่อวดอุตริ พระใบ้หวย พระเรียกเก็บค่าเวทย์มนต์ พวกนี้เอาผิดได้หมด