จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศูนย์เด็กเล็กแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล โดยปรากฏภาพของเด็กนักเรียนกำลังยืนต่อแถว ต่อมามีเด็กนักเรียนชายคนหนึ่ง วิ่งออกมาแล้วชนเพื่อนอีกคนล้มลงไปนอนกับพื้น จากนั้นมีครูผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปใช้เท้าเหยียบเด็กชายคนดังกล่าว เมื่อเด็กลุกขึ้นนั่ง ครูคนดังกล่าวได้ใช้มือตบศีรษะเด็กชายไปอีก 1 ครั้ง จนกระทั่งครูผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามาประคองเด็กให้ลุกขึ้น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของคลิป ทราบว่าเป็นแม่ของเด็กชายผู้ถูกกระทำ โดยแม่ให้ข้อมูลว่า ตนแยกทางกับพ่อเด็ก เรื่องที่เกิดขึ้น ขอให้ไปสอบถามพ่อของเด็กก่อน
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังบ้านพ่อของเด็ก หมู่ที่ 1 ต.ทุ่งบุหลัง อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล แต่ไม่พบ เนื่องจากออกทะเลทำประมง จึงได้พูดคุยกับยายของเด็ก เล่าว่า หลานชายของตนเป็นเด็กในคลิปจริง โดยพ่อของเด็กได้คลิปมาจากผู้หวังดี หลังจากครอบครัวเห็นคลิปก็รู้สึกหดหู่ใจและเสียใจมาก นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงที่กระทำเป็นครูในศูนย์ คลิปดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.67 ซึ่งใกล้จะครบปีแล้ว ขณะนั้นหลานชายอายุ 4 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 แต่ตนและครอบครัวเพิ่งได้เห็นคลิปเมื่อวันที่ 26 ก.พ.68 ตอนนี้หลานอยู่ชั้นอนุบาล 2 แล้ว ก่อนหน้านี้เคยได้ยินเรื่องราวว่าครูในศูนย์ดังกล่าวทำร้ายเด็ก แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอกับหลานตัวเอง หลังจากเห็นคลิป จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ทุ่งหว้า และได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กับนายก อบต.ทุ่งบุหลัง ซึ่งรับปากว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อสอบสวนหาความจริงและสาเหตุที่เกิดขึ้น
ยายของเด็ก เล่าต่อว่า พอนึกย้อนไป ถึงแม้จะผ่านมาเกือบปีแล้ว แต่ก็จำได้ว่าหลานเคยมาบอกว่าเจ็บคอ โดนเหยียบที่คอ ไม่อยากไปโรงเรียน แต่พ่อและญาติคิดว่าคงจะซุกซนและทะเลาะกับเพื่อนตามประสาเด็กซน เลยไม่ถามอะไร หลังจากมีคลิปออกมาทางฝั่งผู้ก่อเหตุก็ติดต่อผ่านคนอื่นเพื่อจะมาที่บ้าน แต่ทางพ่อเด็กและญาติๆ ไม่อนุญาต และไม่ขอพูดคุยเจรจาใดๆ เพราะถือว่าการกระทำดังกล่าวรุนแรงเกินไป จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ต่อมา นายกริชชัย ภู่ฉุน นายอำเภอทุ่งหว้า เดินทางมายังบ้านของเด็กชายดังกล่าว เพื่อเยี่ยมเยียนและสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ตนได้รับทราบข้อมูล ก็ได้ติดต่อพูดคุยกับ นายก อบต.ทุ่งบุหลัง ให้ดำเนินการลงโทษทางวินัยกับครูคนดังกล่าว โดยจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อสอบสวนอาผิดทางวินัย ระหว่างการสอบสวนจะทำหนังสือไปยังต้นสังกัดเพื่อพิจารณาส่งเจ้าหน้าที่ที่ก่อเหตุออกนอกพื้นที่ไปก่อน เพื่อไม่ให้มายุ่งกับการสอบสวน
ทั้งนี้ทราบว่าผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว ตนได้พูดคุยกับผู้กำกับการ สภ.ทุ่งหว้า เพื่อสอบสวนในด้านทางอาญา เนื่องจากการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายกันกระทำความผิดในประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี นอกจากนี้ผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กชายอายุแค่ 5 ขวบ ตนจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประเมินเรื่องของผลกระทบทางด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด อย่างไรก็ตามตนขอบคุณโลกโซเชียลที่ได้แชร์เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นำมาสู่การช่วยเหลือและแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับแม่ของเด็ก กล่าวว่า ตนกับพ่อเด็กเลิกรากันตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยตกลงกันว่าพ่อจะเป็นผู้ดูแลลูก แต่ตนก็จะไปรับลูกมาอยู่ด้วยทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ส่วนคลิปที่ตนโพสต์ลงโซเชียล พ่อเด็กเป็นคนส่งมาให้ เมื่อตนเห็นคลิปถึงกับน้ำตาไหล ไม่นึกว่าโรงเรียนซึ่งเป็นที่ที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดที่ผู้ปกครองทุกคนให้ความไว้ใจ กลับมีการกระทำที่โหดร้ายจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นครู ทำให้รู้สึกว่าลูกไม่ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ลูกก็เคยเล่าให้ฟังว่าคุณครูคนดังกล่าวเหยียบคอ แต่ตนก็ไม่เชื่อ คิดว่าเป็นข้ออ้างของเด็กที่ไม่อยากไปโรงเรียน แต่พอเห็นคลิปตนเสียใจมาก ตนมอบหน้าที่ให้ทางพ่อของลูกดำเนินการก่อน แต่ตนก็ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเช่นกัน เพราะไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้กับเด็กคนไหนอีก