จากกรณีหนูน้อย 8 ขวบ ตื่นเต้นที่ครูจะพาไปทัศนศึกษา แต่กลัวไม่ทันรถนำเที่ยว จึงพกนมและขนมใส่กระเป๋าเดินเท้าออกจากบ้านตั้งแต่กลางดึกมาโรงเรียน โดยพลเมืองดีเจอน้องเดินอยู่ริมถนนสายบุรีรัมย์-นางรอง จึงรับตัวน้องพาไปฝากไว้ที่ปั๊มน้ำมัน แล้วแจ้งหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์มารับกลับไปส่งบ้านพัก
ขณะที่ผู้เป็นแม่ อายุ 29 ปี ซึ่งเพิ่งเลิกงานกลับเข้าบ้านจึงไม่รู้ว่าลูกสาวออกจากบ้านไปตอนไหน รู้แต่ว่าลูกสาวจะไปทัศนศึกษา จึงให้เข้านอนแต่หัวค่ำ มารู้ก็ตอนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพามาส่ง คาดว่าลูกสาวน่าจะตื่นเต้นและอยากจะไปดูช้าง เพราะไม่เคยเห็นช้างตัวเป็นๆ มาก่อนนั้น
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา รถบัสพานักเรียนกลับจากทัศนศึกษามาถึงโรงเรียน บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขของบรรดาเด็กนักเรียน ทุกคนต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยเฉพาะ ‘น้องน้ำ’ เด็กหญิง 8 ขวบ ที่ตื่นก่อนเพื่อน จนถึงกับเก็บของใส่กระเป๋าเดินเท้าออกจากบ้านตั้งแต่กลางดึก
น้องน้ำ เล่าด้วยความดีใจว่า ได้เห็นช้างหลายตัว มีทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ ก่อนผู้เป็นแม่มารับพากลับบ้าน
ต่อมา พี่ๆ หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ซึ่งเป็นคนรับน้องน้ำจากปั๊มน้ำมันกลางดึกเมื่อคืนพากลับมาส่งบ้าน ได้เดินทางไปหาหนูน้อยอีกครั้ง พบว่าบ้านน้องน้ำเป็นบ้านหลังเล็กๆ ปลูกสร้างด้วยไม้และสังกะสี จากการสอบถามแม่น้องน้ำ ทราบว่า ลูกสาวกำพร้าพ่อ เนื่องจากประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อ 4 ปีก่อน ทำให้น้องไม่เคยได้ไปเที่ยวที่ไหนหรือเห็นสิ่งแปลกใหม่ เพราะแม่ต้องไปทำงานรับจ้างหาเงินเลี้ยงลูกสาว
เมื่อพี่กู้ภัยถามน้องน้ำว่า อยากกินอะไร น้องตอบว่าอยากกินไก่ทอดเคเอฟซี เพราะยังไม่เคยกินมาก่อน พี่กู้ภัยจึงรีบขออนุญาตพาคุณแม่และน้องไปกินไก่ที่ร้านในตัวอำเภอนางรอง โดยพี่กู้ภัยยังได้บอกกับน้องว่า เงินค่าไก่ทอดนั้นมาจากพี่ๆ ที่ส่งมาให้ฝากช่วยดูแลน้อง ก่อนทั้งหมดพากันขึ้นรถไปกินไก่ทอดสมดังใจ
ที่มา : ข่าวสด