ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจากชายอายุ 37 ปี ไรเดอร์ส่งของ ว่าเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ของวันที่ 20 ก.ค.67ได้รับออร์เดอร์ลูกค้าผ่านแอปฯ ให้ไปรับสินค้า รวมมูลค่า 350 บาท ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ปักหมุดให้ไปส่งที่หมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งระยะทางรวม 12 กม. พอไปถึงไม่สามารถติดต่อลูกค้าได้ โทรไปก็ไม่รับ แชตไปก็ไม่ตอบ พอกลับไปที่ร้านที่ไปรับของก็ไม่สามารถติดต่อใครได้
ไรเดอร์คนดังกล่าว เล่าว่า ออร์เดอร์นี้สินค้าเป็นผ้าอนามัย 2 ห่อ,ชุดชั้นในผู้หญิง 4 ตัว ,แก้วพลาสติก 2 ใบ,ตลับเมตร 1 อัน,กล่องพลาสติกใส่ยา 1 อัน,กล้วยตากอบน้ำผึ้ง 2 แพ็ก, รวมมูลค่า 350 บาท โดยยอดเก็บเงินสดปลายทางอยู่ที่ 344 บาท วิ่งในระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ได้ค่าเที่ยวแค่ 61 บาท แต่พอไปถึงตามหมุดที่ลูกค้าให้มา ตอนแรกไม่เจอเพราะลูกค้าปักหมุดเหลื่อมไปประมาณ 100 เมตร
ต่อมาได้ขับไปจนเจอบ้านเลขที่ที่ลูกค้าแจ้งมาในระบบ แต่ทางเจ้าของบ้านที่ตนไปส่งบอกว่าไม่ได้สั่ง ตนจึงโทรไปหาลูกค้าตั้งหลายสายลูกค้าก็ไม่รับ แชตไปก็ไม่ตอบ พอติดต่อทางร้านที่ไปรับออร์เดอร์เพื่อขอเบอร์ส่วนตัวของลูกค้า ทางร้านก็ไม่รับโทรศัพท์อีก เลยตัดสินใจขับรถกลับไปที่ร้านก็ตะโกนเรียกก็แล้ว โทรหาก็แล้วปรากฏว่าไม่มีคนออกมา ทั้งๆ ที่รถจักรยานยนต์ก็จอดอยู่ แอร์ก็เปิดอยู่ต้องมีคนอยู่ในร้านแน่ ๆ
ก็เลยติดต่อไปทางต้นสังกัด เขาก็ให้ตนแจ้งเคลม แต่การเคลมกรณีแบบนี้คือต้องใช้หลักฐานการแชตต่างๆ ภาพสถานที่ ส่งไปประกอบถึงจะได้เงินคืนซึ่งก็ใช้เวลา แต่หลักฐานการแชตตอนนี้ไม่สามารถดูได้แล้วไม่รู้ว่าจะสามารถทำเรื่องเคลมได้หรือเปล่า จำนวนเงิน 350 บาท นี้กว่าตนจะได้ก็ต้องวิ่งงานประมาณ10 ออร์เดอร์ถึงจะได้เงินจำนวนนี้ ซึ่งการวิ่งงานแต่ละวันก็มีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำมัน ค่าข้าวค่าน้ำ ค่าสึกเหรอรถ
อยากฝากไปถึงลูกค้าถ้าจะสั่งผ่านแอปฯ ขอให้รับโทรศัพท์ไรเดอร์ด้วยครับ วันหนึ่งตนวิ่งงานได้ 10 กว่าตัวได้เงิน 300 กว่าบาท แต่ถ้าลูกค้าไม่รับสายแบบนี้ครั้งหนึ่ง ตนจะต้องรับผิดชอบเงิน 300 กว่าบาท ที่ได้ค่าเที่ยวมาทั้งวันก็หมดแล้ว ไหนจะค่ากิน ค่าน้ำมันและอีกเยอะแยะไปหมด นอกจากจะไม่มีรายรับแล้ว มีแต่รายจ่ายถ้าเกิดกรณีแบบเดียวกันนี้