‘นายปรีชา สอิ้งทอง’ นายอำเภอเมืองกระบี่ นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง อ.เมืองกระบี่ เข้าตรวจค้นกุฏิพระในวัดแห่งหนึ่งใน ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ ซึ่งเป็นกุฏิของพระเอ (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ชาว ต.ห้วยยูง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ และกุฏิของพระบี (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ชาว อ.เมืองกระบี่
จากการตรวจค้น พบยาบ้าและยาไอซ์ในกุฏิของพระทั้ง 2 รูป กุฏิของพระเอ พบยาบ้า 101 เม็ด ยาไอซ์ 6.37 กรัม ส่วนกุฏิของบี พบยาบ้า 196 เม็ด สอบสวนพระทั้ง 2 รูป ยอมรับว่า มียาบ้า ไว้เพื่อลักลอบจำหน่ายให้พระในวัด และวัยรุ่นในพื้นที่
ตรวจสอบประวัติพระเอ ยังพบว่าเคยติดคุกในคดียาเสพติด พ้นโทษมาเมื่อ 5 ปีก่อน ก็มาบวชเป็นพระและลักลอบค้ายาบ้ามานานกว่า 4 ปี จึงคุมตัวทั้งสองไปพบเจ้าคณะจังหวัดเพื่อทำการสึก ก่อนคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ดำเนินคดีข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์)
ระหว่างการเข้าตรวจค้นกุฏิ อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอึ้งก็คือ สภาพภายในกุฏิของทั้งสิง ที่มีสภาพรกแทบไม่เห็นพื้นกุฏิ ภายในมีกองขยะจำนวนมหาศาล โดยในกุฏิของพระเอยังมีตู้เย็น ที่ภายในมีอาหารสดแช่ไว้สำหรับปรุงกินเอง มีครัวไว้ทำกับข้าว ความเป็นอยู่เหมือนคนปกติทั่วไป เจ้าหน้าที่รื้อในกองขยะของพระเอ ยังพบยาปลุกเซ็กส์อีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานให้ทางวัดจัดแม่บ้านมาเก็บกวาดทำความสะอาดกุฎิทั้ง 2 หลัง
นายอำเภอเมืองกระบี่ เผยว่า การจับกลุ่มดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ต.กระบี่น้อย ตั้งด่านตรวจสกัดจับกุมสิ่งผิดกฎหมาย ปรากฏว่าจับกลุ่มวัยรุ่นพกอาวุธปืนได้ 2 คน ยึดปืนได้ 2 กระบอก
โดยขณะกำลังคุมตัวผู้ต้องหาในคดีอาวุธปืนไปทำบันทึกส่งตัวดำเนินคดี ก็มีรถเก๋งคันหนึ่งขับแบบมีพิรุธ พอเห็นรถเจ้าหน้าที่ก็รีบขับหนีอย่างเร็ว จนรถไปชนกับรถแบ็กโฮซ่อมถนน บริเวณใกล้แยกตลาดเก่า ในตัวเมืองกระบี่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปขอตรวจค้นและสอบถาม ปรากฏพบพระเอ เป็นคนขับ เมื่อสอบถามยอมรับว่าเป็นพระอยู่ที่วัดดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงพาตัวไปที่วัด ตรวจสอบประวัติก็พบว่าเป็นบุคคลต้องสงสัย มีพฤติกรรมค้ายาเสพติด จึงเค้นสอบจนยอมรับว่ามียาบ้าฝังดินอยู่ใกล้กับกุฏิ เจ้าหน้าที่ขุดข้างกุฎิจนพบยาบ้าดังกล่าว
และขณะกำลังตรวจค้นกุฏิพระเอ ปรากฏว่าพระบี ซึ่งมีกุฏิอยู่ใกล้กัน แสดงท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าตรวจค้นในกุฏิด้วย ปรากฏว่าพบยาบ้าด้วยเช่นกัน จึงคุมตัวทั้งสองไปทำการสึก และนำตัวดำเนินคดีดังกล่าว