มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

ญาติโวย ฟ้องกลับ จนท.นอกเครื่องแบบ ใช้เอ็ม 16 บุกค้นบ้าน ยิงรถหนุ่มต้องสงสัยมั่วสุมเสพยา


ภูมิภาค
24 พฤษภาคม 25681,954
ญาติโวย ฟ้องกลับ จนท.นอกเครื่องแบบ ใช้เอ็ม 16 บุกค้นบ้าน ยิงรถหนุ่มต้องสงสัยมั่วสุมเสพยา

นายพัฒนเวไนย บุญรักษา ทนายความ นำตัว ชาย อายุ 22 ปี ชาว อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เข้ามอบตัวตามหมายจับศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 105/2568 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,มียาเสพติดให้โทษประเภทที่1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาต”  โดยมี ร.ต.อ.ยุตพงศ์ บางหรง รอง สว.สอบสวน สภ.ทุ่งตะโก และ พ.ต.ท.สานิช หนูคง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ทุ่งตะโก ร่วมสอบปากคำ


พ.ต.ท.สานิช เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ผู้ต้องหาเข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ทุ่งตะไคร โดยเจ้าของบ้านคือ หญิง อายุ 33 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติ  จึงนำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ตร.ภ.8 เข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบรถกระบะสีเงินจอดอยู่หน้าบ้าน โดยผู้ต้องหายืนอยู่ใกล้กับรถ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น แต่กลับขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงล้อ แต่ผู้ต้องหาก็ยังสามารถขับหนีไปได้  แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามขับรถไล่ประกอบกับเส้นทางที่ใช้หลบหนีเป็นถนนในหมู่ มีตรอกซอกซอยเยอะ ทำให้เจ้าหน้าที่หลงทิศทาง และมาพบรถกระบะอีกที จอดทิ้งไว้ริมถนนห่างจากบ้านไปประมาณ 2 กม.ส่วนตัว ผู้ต้องหาไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ ภายในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในบ้าน พบอาวุธปืน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ปืน บีบีกัน จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์การเสพยาและยาบ้า อีก 1 เม็ด จึงเชิญผู้ใหญ่บ้านมาร่วมเป็นพยานในการยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะขอหมายจับตัวผู้ต้องหา  หลังจากศาลอนุมัติได้เพียง 2 วัน ผู้ต้องหาก็เดินทางมามอบตัวพร้อมทนายความ เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยังฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.8 ชุดตรวจค้นและจับกุม ซึ่งเป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมที่สามารถทำได้ และก็ต้องไปว่ากันในชั้นศาล


ด้าน นายพัฒนเวไนย ทนายความ เปิดเผยว่า ตำรวจใช้เวลาสอบปากคำกว่า 4 ชั่วโมง ชาย อายุ 22 ปี ให้การว่าวันเกิดเหตุ ขับรถไปที่บ้านหลังดังกล่าว และได้นั่งคุยประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่ชายเจ้าของบ้านจะออกไปทำงาน และเขาได้คุยกับเพื่อนต่อ ก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ จากนั้นมีรถเก๋งและชาย 3 คนแต่งชุดธรรมดาถือปืนลงมา ด้วยความตกใจจึงรีบขับหลบออกมา และได้ยินเสียงปืน ก่อนที่รถจะเสียหลักลงข้างทาง จึงพบว่าล้อรถถูกยิง จึงโทรให้เพื่อนมารับไปบ้านญาติที่ อ.ท่าชนะ ก่อนติดต่อทนายเพื่อแจ้งความ สภ.ท่าชนะ ไว้เป็นหลักฐาน


หลังจากที่ทราบว่าตำรวจออกหมายจับจึงนำ ชาย อายุ 22 ปี มามอบตัวเพื่อสู้คดีขอความเป็นธรรม และพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายผู้ที่ลงลายมือชื่อในชุดที่ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว และกรณีที่ตำรวจชุดดังกล่าวใช้อาวุธยิงใส่รถยนต์ทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันแจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวน และยืนยันจะแจ้งความดำเนินคดี ร่วมกันพยายามฆ่ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวอีกด้วย


ต่อมาทางสองสามีภรรยาเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เดินทางมาที่ สภ.ทุ่งตะโก เพื่อมาเป็นพยานให้กับ ชาย อายุ 22 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ด้วยการสอบปากคำชายคนดังกล่าวใช้เวลานานหลายชั่วโมง จึงต้องเลื่อนไป


หญิงเจ้าของบ้าน กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนทำงานไม่ได้อยู่บ้าน จนแม่โทรมาบอกจึงรีบกลับมาดูพบว่าบ้านถูกรื้อข้าวของกระจัดกระจาย ได้ถามตำรวจว่าเข้ามาในบ้านได้อย่างไร ทางตำรวจบอกว่าบ้านถูกเปิดไว้อยู่แล้ว พร้อมสาเหตุเรื่องการมั่วสุมจึงเข้าตรวจค้น ที่ตำรวจบอกว่าบ้านเปิดไว้แล้ว และมาเจอน้องชายมั่วสุมยาเสพติดกันอยู่ ตอนแรกตนยอมรับว่าตกใจและเชื่อในสิ่งที่ตำรวจพูด แต่พอมาคิดดูใหม่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะน้องชายไม่มีกุญแจบ้านและไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากุญแจอีกดอกอยู่ตรงไหน มีเพียงลูกสาวและลูกชายเท่านั้นที่รู้ แล้วที่บอกว่ามั่วสุมกันอยู่หลายคน ทำไมไล่จับน้องชายเพียงคนเดียว อีกหลายคนไปไหน ทำไมจับไม่ได้สักคน


ขณะที่ ชายเจ้าของบ้านยอมรับว่า อาวุธปืนทั้งหมดและยาบ้า 1 เม็ด ที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นเจอนั้น เป็นของตนไม่ใช่ของน้องชาย วันเกิดเหตุตนมาที่บ้านในช่วงเที่ยงเพื่อมากินข้าวกลางวันและเจอกับน้องชายจริง ซึ่งตนก็ปิดบ้านอย่างดีก่อนจะไปทำงาน ระหว่างทางก็ยังเห็นรถเก๋งขับสวนทางเข้ามา แต่ไม่คิดว่าเป็นรถตำรวจ จนมาถึงที่ทำงานไม่นาน ภรรยาโทรมาบอกว่าเกิดเหตุ


จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่า วันเกิดเหตุ ชาย อายุ 22 ปี เดินไปเก็บใบมะกรูดใกล้บ้านตน เมื่อเก็บระหว่างกำลังเดินไปที่บ้านป้า ก็มีรถเก๋งสีขาวตามมาจอด มีผู้ชายประมาณ 3-4 คนลงมาจากรถพร้อมปืน และไล่ยิง ชายคนดังกล่าวทันที ตนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นได้ยินเสียงปืนดังมาก ก็มีความหวาดกลัว แต่ก็ไม่ได้หนีไปไหน ในวันที่ตำรวจมานั้นบ้านหลังดังกล่าวก็ถูกปิดไว้ ไม่ได้มีใครเปิดประตูทิ้งไว้  ชายคนดังกล่าวก็เข้ามาคนเดียว และยังได้ยินเสียงว่าในมือมีถุงของ  ซึ่งคำว่าถุงของนั้นที่จริงคือถุงใบมะกรูดไม่ใช่ยาเสพติด


ด้าน ป้าของชาย อายุ 22 ปี กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนตั้งใจจะทำห่อหมก และหลานชาย ขับรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านลูกสาว ก่อนจะมาที่บ้านเพื่อจะกินข้าว ซึ่งเป็นปกติที่หลานชายมาแวะเวียนมากินข้าว และตนก็ให้ไปช่วยเก็บใบมะกรูด สักพักมีรถเก๋งขับมาอีกคันหลังจากรถตู้ทึบขับออกไปแล้ว  


ตนก็เห็นมีคนลงมาจากรถเก๋งพุ่งมาที่หลาน สักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด ตนกลัวต้องหมอบลงกับพื้นและก็เห็นรถหลานขับออกไปอย่างรวดเร็ว และมีรถเก๋งขับไล่ตาม ไม่นานพวกนั้นก็กลับมา ตนได้ไปถามก็ถูกดุว่า ไม่เห็นหรือว่าเขามั่วสุมกันที่บ้าน ซึ่งตนก็พูดสวนไปว่ามั่วสุมยังไงที่บ้านเขาปิดประตู และหลานก็มาเพียงคนเดียว ถ้ามั่วสุมและทำไมต้องวิ่งไล่จับหลานเพียงคนเดียว แล้วคนอื่นที่มามั่วสุมไปไหนกันหมด


ป้าของชาย อายุ 22 ปี กล่าวอีกว่า ตำรวจมายังกับโจร รถก็ไม่ใช่ ชุดก็ไม่ใช่ เป็นใคร ใครก็ต้องตกใจ อยู่ ๆมีคนแห่ลงมาหลายคนพร้อมปืน แล้วใครจะอยู่ มันก็ต้องหนีเป็นธรรมดา และหลังจากนี้ต่อไปจะอยู่กันอย่างไร ขนาดมาคนเดียวยังหาว่ามั่วสุมและต่อไปจะโยนยาเสพติดซุกใส่บ้านของชาวบ้านหรือเปล่าไม่รู้


ส่วนผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ยอมรับว่า วันเกิดเหตุตนได้รับการประสานมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ไปร่วมเป็นพยานในการตรวจค้นของกลาง ซึ่งตอนไปนั้นทุกอย่างก็เรียบร้อยหมดแล้ว ตนไปก็เห็นมีของกลางเป็นอาวุธปืน 2-3 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน และก็มีถุงบรรจุยาเสพติด


ส่วนยาเสพติดนั้นไม่มีแสดงให้เห็นเป็นของกลางในการตรวจยึดในบันทึกแต่อย่างใด ส่วน ลูกบ้านคนนี้ ตนก็ไม่ได้มักคุ้นเท่าไหร่ จะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ตนไม่สามารถยืนยันหรือรับรองได้ แต่ก็คงมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ ตำรวจจึงได้เข้าทำการตรวจค้นดังกล่าว


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ยาเสพติด#ค้นบ้าน#มั่วสุม#โหนกระแส