กรณีเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 24 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนรถยนต์เก๋ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองปากพนัง หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ปวช.2 วิทยาลัยการพาณิชย์แห่งหนึ่งใน อ.ปากพนัง จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลปากพนัง
นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บ สภาพพังเสียหายชนอัดติดประตูฝั่งคนขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งเป็นชาย อายุ 70 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังเกิดเหตุตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกล้องหน้ารถของพลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ นาทีก่อนเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บขี่มาด้วยความเร็ว แซงซ้ายรถยนต์เก๋งของพลเมืองดี เป็นจังหวะเดียวกับรถยนต์เก๋งคู่กรณีออกจากเลนซ้ายเข้าช่องกลับรถตัดหน้ารถจักรยานยนต์ โดยรถยนต์เก๋งไม่เปิดไฟเลี้ยวขวาเป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์พุ่งชนประตูฝั่งคนขับอย่างจัง ร่างกระเด็นได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
ความคืบหน้าล่าสุด ชายอายุ 17 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุดังกล่าว ได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อกลางดึกวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเสียใจของญาติๆ และเพื่อน ๆ
แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตอนนี้กังวลเรื่องคดี กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมและที่ผ่านมาคนขับรถยนต์เก๋งไม่เคยมาเยี่ยมลูกชายตนที่โรงพยาบาลแม้แต่ครั้งเดียว หลังเกิดเหตุคนขับพยายามโทรศัพท์เสนอเงิน 20,000 บาท เพื่อเยียวยา แต่ตนและครอบครัวไม่รับ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีคนขับให้ถึงที่สุด
ส่วนกรณีที่ลูกชายขับรถค่อนข้างเร็ว ตนยอมรับ แต่หากคนขับรถยนต์เก๋งไม่กลับรถตัดหน้า อุบัติเหตุก็ไม่เกิดขึ้นเพราะดูจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดี และกล้องวงจรปิดโรงรับจำนำเทศบาลเมืองปากพนัง พบว่าคนขับรถยนต์เลี้ยวกลับรถข้ามเลน โดยไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว และยังตัดหน้ารถจักรยานยนต์ของลูกชายชัดเจน