ร.ต.ท.เชษฐญาณิน เนียมเกาะเพ็ชร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ถูกรถบรรทุกพ่วงทับ บนถนนสายสุวินทวงศ์ ก่อนขึ้นสะพานข้ามแยกสตาร์ไลท์ ขาเข้าเมือง ม.7 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย อายุ 21 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและขา และชาย อายุ 23 ปี บาดเจ็บบริเวณหัวเข่าและหน้าแข้ง เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร
บนถนนเลนกลางพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ของบริษัทแห่งหนึ่ง สภาพล้อหลังขวาบังโคลนฉีก มีชิ้นส่วนสมองและคราบเลือดของผู้เสียชีวิตติดอยู่ คนขับเป็นชาย อายุ 34 ปี ยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห่างออกไปเล็กน้อยพบซากรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต อายุ 19 ปี สภาพศพถูกรถบรรทุกพ่วงทับที่ศีรษะ โดยมีพ่อและแม่นั่งร้องไห้กอดศพ
ส่วนรถจักรยานยนต์อีกคันกระเด็นตกลงไปอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง สภาพด้านหน้ารถพังเละ เป็นของชาย อายุ 23 ปี นอนเสียชีวิต สภาพศพศีรษะแตก เบื้องต้นแพทย์นิติเวชได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร เพื่อทำการชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง
จากการอสบถามคนขับรถบรรทุก กล่าวว่า ตนบรรทุกน้ำตาลมาจาก จ.สุพรรณบุรี กำลังนำไปส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ถึงที่เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นได้ขี่รถจักรยานยนต์แซงรถของตนไป ก่อนจะเกี่ยวกันล้ม บริเวณหน้ารถของตน ทำให้เบรกไม่ทัน ทับทั้งคนทั้งรถเข้าใต้ท้องรถบรรทุก
ด้านเพื่อนของผู้ตาย กล่าวว่า กลุ่มเพื่อนๆ รวมตัวแข่งขันกันมาตั้งแต่หน้าวัดแซนต์ล็อค มีการหมอบแข่งกันมา ตนอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน แล้วเห็นกลุ่มเพื่อนมาเป็นกลุ่ม จึงขี่รถตาม ก่อนจะเห็นรถทั้ง 2 คัน เกี่ยวกันล้มจนไฟแล่บ ก่อนจะถูกรถบรรทุกพ่วงเหยียบซ้ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวคนขับรถบรรทุกไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมตรวจสอบภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงพยานแวดล้อมต่างๆ ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปิดเผยภาพที่พลเมืองดีขับรถอยู่บนถนนสุวินทวงศ์ สังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มแข่งขันรถกันมา จึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายแล้ว ก่อนจะมาพบว่าคลิปที่ตนเองถ่ายเอาไว้นั้นจะเป็นคลิปสุดท้ายของวัยรุ่น 2 คนที่ประสบอุบัติเหตุ และเมื่อพ่อแม่ของหนุ่มทั้ง 2 ทราบข่าวรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นร่างของลูกชายถึงกับล้มทั้งยืน ร้องไห้จนแทบเป็นลม
ที่มา : ข่าวสด