มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

"ทายาทชาวสุขะรุ่นสุดท้าย” ได้กลับแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา หลังบรรพบุรุษถูกต้อนไปเป็นเชลยศึก เมื่อ 260 ปีก่อน


ภูมิภาค
18 ตุลาคม 256814,555
"ทายาทชาวสุขะรุ่นสุดท้าย” ได้กลับแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา  หลังบรรพบุรุษถูกต้อนไปเป็นเชลยศึก เมื่อ 260 ปีก่อน

นายปัณณพัทธิ์ คำนึง นักวิชาการอิสระเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ พร้อมคณะจัดโปรแกรม “พาชาวบ้านสุขขะ” ซึ่งเป็นชุมชนคนอโยธยาที่ถูกกวาดต้อนเป็นเชลยกลับไปประเทศเมียนมา เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยา เสียกรุงครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2310 ทั้งนี้เป็นการเยือนแผ่นดินบรรพบุรุษในรอบ 260 ปี


ผู้ที่เดินทางมาประกอบด้วย นายมาไจนา (MARGAINA) เป็นเจ้าอาวาสวัดในหมู่บ้านสุขขะ, นายซอวิน (ZAW WIN) ผู้ใหญ่บ้านสุขขะ, คุณยาย ดอตินทวย ( TIN HTWE ) อายุ 83 ปี และ นางดอตินย๊วด (TIN NYUNT) ทั้งหมดเป็นทายาทรุ่นที่ 7 ที่เดินทางมาจากเมืองมัณฑะเลย์ ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ก่อนมุ่งหน้าเดินทางมา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


สำหรับที่แรกที่ได้สัมผัสแผ่นดินอโยธยา คือบริเวณหน้าศาลหลักเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทันทีที่รถจอดและกลุ่มหมู่บ้านสุขขะลงจากรถเหยียบแผ่นดินบ้านเกิดของบรรพบุรุษ ทุกคนถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความดีใจและตื้นตันใจที่ได้เหยียบแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา หลังจากนั้นทั้งหมดได้พากันเข้าไปกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาลหลักเมืองพร้อมผูกผ้าที่เสา โดยหลังจากผูกผ้าเสร็จ คุณยาย ดอตินทวย กล่าวว่า ดีใจมาก ปลื้มใจที่ได้มาในวันนี้ มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา

 


จากนั้นเดินทางไปที่วัดพระราม โบราณสถานสำคัญอีกหนึ่งแห่งใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมเยี่ยมชมโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์ ซึ่งพอได้เข้าไปภายในบริเวณวัดพระราม เตรียมนำดอกไม้ที่เตรียมมากราบไหว้ ถึงกับหลั่งน้ำตาอีกครั้ง ถอดรองเท้าเดินสัมผัสกับโบราณสถานที่เคยได้แต่รับฟังมาจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น ไม่เคยคิดว่าจะได้กลับมายังแผ่นดินของบรรพบุรุษอีกครั้ง


นายปัณณพัทธิ์ คำนึง นักวิชาการอิสระเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ กล่าวว่า กิจกรรมในครั้งนี้ตอนแรกจะมาก่อนหน้า แต่การทำเอกสารหรือพาสปอร์ตล่าช้า เพิ่งมาเสร็จเมื่อไม่นาน จึงมาในช่วงนี้ ซึ่งกลุ่มชาวบ้านที่มาในวันนี้ เป็นเชื้อสายชาวอยุธยาที่ถูกกวาดต้อนไปเมื่อตอนเสียกรุงครั้งที่ 2 เมื่อปี 2310 เป็นรุ่นที่ 7 เป็นรุ่นที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ที่เคยเล่าให้ฟังว่า บรรพบุรุษมาจากกรุงศรีอยุธยา และก็ไม่เคยมีโอกาสได้มา จะได้รับรู้แค่จากการบอกเล่า


ถ้าในรุ่นที่ 1, 2, 3 ยังคงมีการบอกเล่าจนมาถึงรุ่นนี้ เรียกได้ว่ารุ่นสุดท้ายที่ได้รับฟังเรื่องราวจากบรรพบุรุษอยู่ มายุคนี้เด็กรุ่นใหม่ก็เจือจางลง จะเป็นเมียนมาไปหมดแล้ว ตัวเองมีความสนใจในเรื่องราวเหล่านี้จึงได้เชิญคุณยายกลุ่มนี้มา เพื่อให้เขาได้สัมผัสว่าแผ่นดินบรรพบุรุษเขาเป็นอย่างไร จึงเกิดโครงการนี้ขึ้นมา เพราะชาวบ้านกลุ่มนี้อย่าว่าแต่มาเมืองไทยเลย แค่จากหมู่บ้านเข้าไปเมืองไม่ถึง 10 กิโลเมตร เขายังไม่มีโอกาส น้อยมากที่จะได้ไป การมาครั้งนี้มากกว่าความฝันที่เขาคิดไว้ว่าจะได้กลับมา


ด้าน คุณยาย ดอตินทวย เปิดเผยว่า เมื่อสมัยก่อนตอนที่ยังมีคุณตาคุณยาย บรรพบุรุษก็จะเล่าให้ฟังเรามาจากเชื้อสายอยุธยานะ ประเพณีของเราต้องก่อกองทราย 1 ปี 1 ครั้ง ระหว่างที่มีเทศกาลสงกรานต์ ก่อพระเจดีย์ทราย เพราะที่เมียนมาไม่มี ความรู้สึกที่มาวันนี้ปลื้มใจและดีใจมาก พูดอะไรไม่ออกเลย ตื้นตันมากๆ พร้อมพูดภาษาไทยบางคำที่พูดได้ให้ฟัง เช่น ขนม กล้วย ดี น้ำอ้อย แม้ว่าภาษาจะเพี้ยนไปบ้างแล้ว ยังพูดว่าการมาครั้งนี้คนที่อยู่ตรงนี้เหมือนได้กลับมาเจอญาติๆ ดีใจมาก ท่ามกลางเสียงปรบมือด้วยความปลื้มใจ


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ชาวบ้านสุขขะ#ประวัติศาสตร์#พระนครศรีอยุธยา#บ้านเกิด#โหนกระแส