มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

โหนกระแสวันนี้เปิดคลิปสัมภาษณ์ครบ ฟัง “กอล์ฟ” แล้ว มาฟังตำรวจด้วย ข้อมูลไหนที่ตรงกัน ข้อมูลไหนไม่ตรง อันไหนพูดจริง อันไหนโกหก


ข่าวด่วน
18 กรกฎาคม 25685,432
โหนกระแสวันนี้เปิดคลิปสัมภาษณ์ครบ ฟัง “กอล์ฟ” แล้ว มาฟังตำรวจด้วย ข้อมูลไหนที่ตรงกัน ข้อมูลไหนไม่ตรง อันไหนพูดจริง อันไหนโกหก

รายการโหนกระแสวันนี้ เปิดคลิปสัมภาษณ์ สีกากอล์ฟ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยก่อนหน้านี้ ในรายการโหนกระแสเมื่อวันพุธ และพฤหัสบดี ได้เปิดไปบางส่วนแล้ว วันนี้จะมาขยายความจากเรื่องที่เคยเล่าไว้ก่อนหน้านี้ โดยในวันนี้ พี่หนุ่ม ยืนยันว่า จะเปิดให้หมด คลิปสัมภาษณ์ที่สามารถเปิดได้ ขอให้ติดตามในรายการได้เลย

 

โดยวันนี้ ในรายการได้ บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. มาร่วมพูดคุยถึงการขยายผลการจับกุม เครือข่ายที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับสีกากอล์ฟ

 

โดยในช่วงเปิดรายการ บิ๊กเต่า เล่าถึงที่มาของการสืบสวนเรื่องนี้ เป็นการวางแผนทำงานร่วมกับพระชั้นผู้ใหญ่ หลังทราบเรื่องราวของเจ้าคุณอาชว์ เตรียมจะเข้าไปขอให้เจ้าคุณอาชว์ลาสิกขา แต่ตอนที่เอากำลังไปรอที่วัดตรีทศเทพ เตรียมจะเข้าไปพูดคุย เจรจา เพราะทางสงฆ์คุยกันเองไม่รู้เรื่อง ก็เลยต้องให้ทางตำรวจมาช่วยคุย แต่ปรากฏว่าไปรอที่วัดตรี เจ้าคุณอาชว์ไม่ยอมมา แล้วหนีไปสึกที่หนองคายแทน ตอนนั้นทางตำรวจก็ถูกครหาว่า มีการไปช่วยเหลือ เปิดทางให้เจ้าคุณอาชว์หนีไปหรือไม่ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่เลย มันเป็นปฏิบัติการที่ล้มเหลว ทางตำรวจกลับกลายเป็นจำเลยสังคมว่าไปช่วยพระหนีซะอย่างนั้น

 

จากการขยายผลจากข้อมูลที่ได้มาเบื้องต้น พบความเชื่อมโยงไปที่สีกากอล์ฟ และพบเส้นเงินไปถึง จึงไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นำหมายเข้าไปตรวจยึดวัตถุพยานหลักฐาน เป็นโทรศัพท์มือถือของสีกากอล์ฟ 4–5 เครื่อง และเอามาตรวจสอบ เจอไฟล์ทั้งหมด 8 หมื่นกว่าไฟล์ แต่มีไฟล์ที่เกี่ยวข้องจริงๆ ประมาณ 5,000 ไฟล์ ตอนที่ได้เห็นข้อมูลเหล่านี้ ทางตำรวจก็ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะมันเชื่อมโยงไปถึงพระผู้ใหญ่จำนวนมาก

 

เรื่องนี้ทางตำรวจรู้ทันทีว่าเป็นเรื่องใหญ่ สะเทือนวงการแน่นอน แต่ยังไงก็ต้องทำ ต้องเปิดเรื่องนี้ เพื่อรักษาพระพุทธศาสนาของเราให้ดำรงอยู่ สิ่งที่ไม่ดี เราต้องดำเนินการ เพื่อปกป้องรักษาพระที่ปฏิบัติดี เพื่อรักษาพระศาสนาของเราเอาไว้

 

ขณะที่ นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. บอกว่า สำหรับส่วนที่ ป.ป.ท. เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของการดำเนินการในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะพระสงฆ์ที่เป็นเจ้าอาวาสมีตำแหน่งชั้นยศต่างๆ ก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และยืนยันว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น พระจะอ้างว่าไม่มีความผิดเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะพระเองก็มีทั้งในส่วนของพระธรรมวินัย และส่วนของกฎหมายบ้านเมืองกำกับดูแลอยู่ หากพระรูปไหนบอกว่าตัวเองไม่ผิด ก็อยากให้ออกมาสู้เลย ไม่ได้ท้า แต่อยากให้เอาหลักฐานออกมาต่อสู้ว่าตนบริสุทธิ์อย่างไร

 

เมื่อถามว่าเท่าที่เป็นข่าวตอนนี้ ถือว่าหมดหรือยัง จะมีอีกไหม ทางเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. บอกว่า ต้องรอดู ตอบได้แค่ว่า ต้องรอดู และถามต่อไปว่าเกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟหรือไม่ หรือเป็นเรื่องใหม่แล้ว ก็ตอบได้แค่ว่า “ต้องรอดู”

 

ขณะที่ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. เล่าถึงปฏิบัติการหลังจากที่ได้หมายศาลมา เพื่อจะเข้าไปยึดมือถือ ยึดหลักฐาน แต่พอได้หมายมา สีกากอล์ฟหายเข้ากลีบเมฆ เราตั้งใจจะเข้าไปตรวจค้น 2 จุด คือบ้านของเธอย่านราชพฤกษ์ และบ้านที่พิจิตร แต่หมายจะหมดอายุอยู่แล้ว ยังหาตัวไม่เจอ จนแทบจะเรียกว่าหมดหวังแล้ว

 

ปรากฏว่า สีกากอล์ฟ โฟนอินเข้ามาในรายการโหนกระแส เพียงแวบเดียวเท่านั้น จุดประกายความหวังให้ตำรวจ สามารถหาตัวเขาจนเจอได้ในที่สุด แล้วจึงนำกำลังเข้าไปพร้อมกับหมายศาล ได้พบสีกากอล์ฟที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้ควบคุมตัวมาสอบสวน พร้อมกับมือถือดังกล่าวนั่นเอง

 

ต่อมามีการเปิดคลิปสัมภาษณ์สีกากอล์ฟ ในส่วนที่ยังเหลือ เพื่อฟังกันต่อว่าเรื่องราวของพระรูปที่เหลือเป็นอย่างไร

 

ช่วงปี 2564 สีกากอล์ฟ บอกว่ามาพูดคุยกับ หลวงลุงวัดพระพุทธฉาย ก็คือ พระประดิษฐ์ อดีตพระเทพวชิรธีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ซึ่งจริงๆ แล้ว รู้จักกันตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งเป็นคนที่ตนทักไปจีบ ทักไปพูดคุย แล้วท่านก็จะมาอยู่ที่ทาวน์โฮมของตน มาอยู่ก็หลายเดือน แต่อยากจะหายก็หายไป

 

ในช่วงเวลาเดียวกัน ทับซ้อนกัน ก็ได้รู้จัก เจ้าคุณนิกร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดปากน้ำภาษีเจริญ ซึ่งก็ได้รู้จักกันในเฟซบุ๊กเหมือนกัน ที่ได้รู้จักพระรูปใหม่ๆ ทางเฟซบุ๊ก ก็เพราะมันจะมีระบบที่เฟซบุ๊กแนะนำเพื่อนของเพื่อนขึ้นมา ทำให้เราแอดเฟซบุ๊กไป

 

ซึ่งพระทุกรูปที่เราทักไป จะมองออกว่า ท่านเคยคุยกับผู้หญิงอยู่แล้ว เพราะถ้าเราชวนคุย ท่านก็จะคุยกลับมาตลอด ชวนเราไปนั่นไปนี่ มันเป็นการคุยกันแบบปล่อยตัวปล่อยใจ ทำให้เรามองออกว่า แปลว่าท่านก็น่าจะเคยๆ คุยแบบนี้อยู่แล้ว

 

รูปต่อมาคือ ทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา รูปนี้อายุยังน้อย เราก็เลยคบหากันแบบวัยรุ่น แล้วเช่าบ้านอยู่ด้วยกันกับคู่ของน้องเรา ที่ฉะเชิงเทรา ใกล้ๆ กับวัดโสธร อยู่กัน 4 คน

 

หลายคนน่าจะเห็นในคลิปที่ทะเลาะกัน ที่เห็นว่าเขาบอกว่าจะออกไปทำงานที่วัดตอนดึกๆ ทิดแหล่บอกว่าจะออกไปทำธุระที่วัด โดยขับรถของสีกากอล์ฟออกไปตามลำพัง แล้วไม่กลับมาสักที ทำให้สีกากอล์ฟกับน้อง ออกไปดักเฝ้าว่าเขาไปทำอะไรกับใคร จนเจอว่าเขาไปกับผู้หญิงคนอื่น โดยเอารถของเราไปจอดไว้ข้างวัด แล้วนั่งรถไปกับผู้หญิงคนนั้น แล้วพอเขากลับมา เราโดดออกไปแสดงตัว ว่าเราจับได้แล้วนะ ปรากฏว่าผู้หญิงที่ขับรถมากับท่าน ตกใจแล้วพยายามจะขับรถพุ่งเฉี่ยวชนเรา

 

สีกากอล์ฟ จึงบุกเข้าไปในกุฏิของทิดแหล่ เพื่อยึดทรัพย์สินมีค่าของเขาไว้ เพื่อบังคับให้เขากลับมาหาเรา เพื่อเอาของคืน จึงนำไปสู่คลิปใหม่ ที่เขากลับมาหาแล้วบอกว่า มาเอาคอม

 

เมื่อถามถึงเรื่องที่ ทิดแหล่ไปให้การกับตำรวจว่า สีกากอล์ฟเป็นคนคอยกำกับ ชี้นำ ให้ทำแบบนั้นแบบนี้ แม้แต่การสั่งให้ทิดแหล่ทำเอกสารร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ เพื่อจะร้องเรียนต่อสำนักพุทธ สีกากอล์ฟบอกว่า เราส่งข้อมูลให้เขา แล้วให้เขาปรินต์ให้ แล้วให้ส่งแมสเซนเจอร์มาให้เรา แต่สุดท้ายแล้วเราไม่ได้ส่งไป แค่ปรินต์ออกมาเฉยๆ

 

แต่เรื่องนี้ ผิดจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนปากคำทิดแหล่ ทิดแหล่บอกว่าถูกสีกากอล์ฟแบล็กเมลตลอดเวลา ว่าจะแฉ ถ้าไม่ยอมทำแบบนั้น แบบนี้ แม้แต่จดหมายที่ร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ สีกากอล์ฟก็บังคับให้เราเป็นคนทำหนังสือ ไม่งั้นจะแฉ

 

เรื่องนี้ทำให้ตำรวจปะติดปะต่อเรื่องราวเป็นแผนประทุษกรรม และทิดแหล่ก็ยอมแจ้งความ เอาผิดสีกากอล์ฟ เป็นคดีแรก ก่อนที่จะเจอคดียักยอกของเจ้าอาวาสวัดชูจิตทีหลัง จึงน่าจะยืนยันได้ว่า สีกากอล์ฟ โกหกในการสัมภาษณ์

 

ส่วนเรื่องเจ้าคุณอาชว์ เริ่มจากการที่ตนไปคบหากับท่านเจ้าคุณวัดชูจิตก่อน ด้วยความที่ท่านเป็นพระสายธรรมยุติ เวลาไปงานไหนก็ไปงานเดียวกัน ทำให้ตนไปเจอ ท่านเจ้าคุณอาชว์ในงานนั้น แล้วรู้สึกชอบ ก็เลยขอเบอร์เจ้าคุณอาชว์จากท่านเจ้าคุณวัดชูจิต

 

เรารู้จักกันวันที่ 8 วันที่ 9 เราได้คุยกัน แล้วก็มีสัมพันธ์กันวันที่ 14 โดยการขับรถไปที่ มจร.วังน้อย แล้วมีสัมพันธ์กันในรถ โดยที่เจ้าคุณอาชว์ พิมพ์ข้อความมาว่า เรารักกันและเป็น 3 คน ในวันนั้น ก็เพราะว่าท่านเชื่อว่า กอล์ฟท้องตั้งแต่ที่เรามีสัมพันธ์กันในรถตั้งแต่วันนั้น ซึ่ง สีกากอล์ฟก็ท้องจริงๆ ท้องลูกคนที่ 4 กับเจ้าคุณอาชว์ แต่ว่าแท้งก่อน และพอรู้ว่าตนท้อง เจ้าคุณอาชว์ก็เริ่มตีตัวออกห่าง

 

ส่วนท่านเจ้าอาวาสวัดชูจิต เราไม่เคยมีสัมพันธ์กันทางกาย แต่ว่ามีแชตคุยกันแบบแฟน และมีคลิปที่ทะเลาะกัน เอาไฟฉายตีหัว โดยเป็นเหตุการณ์ที่ตนไปทำธุระมาแล้วมันดึก จึงไปขออาศัยที่ห้องรับรองของทางวัด โดยไปกับลูก ซึ่งท่านเจ้าอาวาสวัดชูจิตมาเปิดห้องให้ แต่ท่านไม่ยอมให้เราแตะตัวท่าน แต่เราอยากหยอก ท่านทำอะไรไม่ได้ก็เลยเอาไฟฉายตีหัวตัวเอง กอล์ฟยอมรับว่าได้เงินได้ทองจากท่านวัดชูจิต บอกว่าจะเอาเงินไปลงทุน แต่จริงๆ คือเอาเงินไปเล่นพนันออนไลน์

 

ส่วนท่านผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดประยุรวงศาวาส ไม่ได้มีสัมพันธ์ แต่คุยกันฟีลแฟน วิดีโอคอลเห็นหน้ากันบ้าง แต่ว่าไม่มีการให้เงินให้ทอง ไม่มีเรื่องทางกาย

 

ส่วนเรื่องหลวงพ่อวัดใหญ่จอมปราสาท ท่านเข้ามาในช่วงที่ตนมีลูกคนที่สาม ท่านเมตตา ให้เงินเรา ไม่ได้มีสัมพันธ์อะไร ตอนนั้นเราเล่นแชร์ ท่านก็ให้ยืมเงินมา เพราะท่านเอ็นดูลูกๆ ทั้ง 3 คนของเรา ท่านให้ยืมเป็นล้าน แต่เราก็คืนไปได้แค่หลักแสน

 

ถามว่าทำไมเราชอบถ่ายรูป ถ่ายคลิป เก็บไว้ กอล์ฟบอกว่ามันเป็นฟีลเหมือนถ่ายรูปแฟนเก็บไว้ส่วนตัว เพราะมือถือเป็นมือถือส่วนตัว เราไม่ได้คิดจะเอาไปปล่อย ไม่ได้คิดจะเอาไปแบล็กเมลใครอยู่แล้ว แล้วที่บอกว่ามีรูปมีคลิปเป็นพันเป็นหมื่นไฟล์ คนเข้าใจผิดว่าเป็นคลิปไม่สมควรทั้งหมด แต่จริงๆ มันคือรูปทั่วๆ ไป ไม่ใช่รูป ไม่ใช่คลิปของพระทั้งหมด ตำรวจเขากู้ขึ้นมาจาก iCloud

 


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#สีกากอล์ฟ#สอบสวนกลาง