เคลียร์จบ! สาวขับรถไฟฟ้า EV แบตพัง คุยกับประกันไม่จบ ไม่ให้เปลี่ยนแบต จะให้ซ่อม สุดท้ายจบได้ในรายการ

รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณีหญิงสาวคนหนึ่ง ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV ยี่ห้อ Neta V มาขับ ปรากฏว่าขับไปประสบอุบัติเหตุ ชนบางอย่างใต้ท้องรถ จนฝาครอบแบตเป็นรู ประกอบกับเป็นช่วงฝนตกน้ำท่วม ทำให้เกิดปัญหาน้ำเข้าแบตเตอรี่

หลังเกิดเรื่อง ได้ส่งรถไปเข้าศูนย์ซ่อม โดยมีประกันภัยที่ทำไว้คุ้มครองค่าเสียหายต่างๆ ทางศูนย์ได้ส่งรถไปที่ไว้ที่ศูนย์บางนา ซึ่งเป็นศูนย์บริการ Battery Center ของทางแบรนด์ สามารถแก้ปัญหาเรื่องแบตได้ทั้งหมด

ช่างประเมินแล้วว่า น้ำเข้าไปแช่ในแบตเตอรี่ปริมาณมาก และเป็นเวลานาน ไม่สามารถซ่อมได้แล้ว ต้องเปลี่ยนแบตใหม่ทั้งก้อน โดยรถคันนี้ซื้อมาในราคา 549,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่รัฐบาลช่วยจ่าย มูลค่าเต็มประมาณ 7 แสนบาท ทำประกันภัยกับบริษัทประกัน วงเงินประกันของประกันภัย ที่คุ้มครองอยู่ที่ 610,000 บาท

ปรากฏว่าราคาค่าซ่อม ที่ศูนย์บริการออกใบเสร็จมา เป็นเงินสุทธิประมาณ 433,617 บาท ซึ่งทางประกันบอกว่า ถ้ายอดซ่อมสูงขนาดนี้ แนะนำให้ “คืนทุน” ดีกว่า คือให้เราคืนรถไปเลย โดยประกันจะเอาวงเงินคุ้มครองทั้งหมดนี้ไปปิดไฟแนนซ์ให้ ส่วนต่างที่เราผ่อนไปแล้วจะคืนให้เรา ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เราก็ตกลง และนำเดินการคืนเอกสาร คืนป้ายขาวทั้งหมดไปแล้ว

ปรากฏว่าหลังจากส่งเอกสารคืนไปไม่กี่ชั่วโมง ประกันโทรมาบอกว่า ทางศูนย์เนต้าที่บางนาแจ้งว่าแบตรถเราซ่อมได้ ไม่ต้องคืนทุนแล้ว ให้ซ่อมแทน 

คุณแนนบอกว่าตอนนั้นงงมากๆ เพราะก่อนหน้านี้ถามแล้วถามอีกว่าซ่อมได้ไหม ช่างก็ยืนยันว่าซ่อมไม่ได้ เราก็ไปที่ศูนย์ที่บางนาทันที ช่างบอกว่า มีคนของประกันมาถ่ายคลิปที่ศูนย์ว่า ที่นี่ซ่อมแบตได้ไหม เขาก็บอกว่าที่นี่เป็นแบตเซนเตอร์ ต้องซ่อมได้อยู่แล้ว แต่เขาไม่ได้พูดถึงรถเราว่าซ่อมได้หรือไม่ได้ แต่ทางประกันกลับเอาคลิปนั้นมาเป็นข้อโต้แย้งว่าซ่อมได้

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราพยายามติดต่อขอความคืบหน้า ทั้งติดต่อทางศูนย์ ติดต่อทางประกัน ติดต่อหลายครั้งจนโดนทางประกันสวนกลับมาว่า “เฮ้ย จะตามอะไรนักหนา ให้เวลาทำงานบ้างสิ” ซึ่งคนที่พูดเป็นถึงผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสินไหมของบริษัทประกัน

ขณะที่คุณปรารถนา คุณสมบัติ ผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของทาง Neta ประเทศไทย โฟนอินเข้ามาชี้แจงว่า ตอนนี้เรื่องเคสของคุณแนน อยู่ระหว่างการยืนยันปัญหาระหว่างประกัน กับทางแบตเตอรี่เซนเตอร์บางนา จากการตรวจสอบของช่างผู้ชำนาญงาน ประเมิน 3 ส่วนหลัก เรื่องการลัดวงจรของแบต ความชื้มสะสมที่มีอยู่มาก และห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูกค้า จึงแนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งหมด เป็นเงิน 4.3 แสนบาท เป็นราคามาตรฐาน

ยืนยันว่าได้ยืนยันกับทางประกันว่า “ต้องเปลี่ยนแบตทั้งลูก ไม่แนะนำให้ซ่อม” แต่ก็มีข้อสังเกตจากทาง คปภ.และทางทนายแก้ว ที่สอบถามทาง NETA ไปว่า ในเมื่อตอนแรกที่แกะดูพบว่าน้ำเข้าแบต ทำไมทางช่างถึงยังประกอบกลับไปในรถอีก เพราะความชื้นอาจไปทำให้อะไหล่ส่วนอื่นๆ เสียหายเพิ่มได้

ขณะที่ นายเชิดชัย ทองกุนา ผอ.ฝ่ายสินไหม จากทางโตเกียวมารีนประกันภัย โฟนอินเข้ามาชี้แจงว่า ขออภัยคุณแนนในเรื่องการสื่อสารที่มีเจ้าหน้าที่ที่ไปสื่อสารไม่ดี ทางบริษัทน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการแก้ไขต่อไป

ส่วนเรื่องการต้องเปลี่ยนแบต หรือต้องซ่อมแบตนั้น ตามขั้นตอน ทางประกันต้องเข้าไปเช็กกับทางศูนย์บริการ ว่ามันยังใช้งานได้ไหม หรือต้องเปลี่ยน เนื่องจากรถอยู่ที่บางนา แต่ทางประกันอยู่ที่ชลบุรี ทำให้ไม่สามารถเข้าไปเช็กรถได้ตั้งแต่วันแรกๆ แต่เมื่อได้รับแจ้งจากศูนย์บริการมาแล้วว่าต้องเปลี่ยนแบต เรื่องนี้ในเคสของคุณแนน ทางโตเกียวมารีนก็จะดำเนินการคืนทุนให้ ไม่ต้องซ่อมไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว