หลังจากที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมและงานอิเวนต์ต่างๆ ในไทย ล่าสุด ‘แจ็คสัน หวัง’ ได้เปิดให้สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์ที่อาคารมาลีนนท์ อัปเดตงานเพลงล่าสุด GBAD ในอัลบั้ม Magic Man 2
เมื่อมาถึง แจ็คสัน ก็ได้กล่าวทักทายว่า “ไฮ… ไทยแฟน” พร้อมยกมือไหว้ ก่อนจะพูดภาษไทยว่า “พี่แจ็คนะครับ ผมแจ็คสัน หวัง ขอบคุณที่มากันวันนี้นะครับ”
พูดถึงการทำงานในอัลบั้มใหม่ Magic Man2 ถ้าต้องใช้ 2 ประโยคในการอธิบาย เมจิกแมน คือ คาแรกเตอร์ที่จะพรีเซนต์ความเป็นภายในของ แจ็คสัน หวัง ออกมา ส่วนเมกอัปที่ดูดำๆ แจ็คสันเดบิวต์ตั้งแต่อายุยังน้อย และได้ผ่านประสบการณ์มามากมายเป็นเวลากว่า 10 ปี และอยู่ในจุดที่ดำดิ่งที่สุด ช่วงเวลา 3-4 ปี ที่ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความดำมืด และด้วยความที่เป็นนักดนตรี เป็นผู้ทำเพลง เลยอยากให้เพลงเล่าเรื่องราวเล่านี้ให้คนได้รับรู้
จริงๆ ไม่ได้มีแรงบันดาลใจอะไรเป็นพิเศษ หยุดทำงานไปเลย 1 ปี เพื่อพักผ่อน แล้วก็ใช้สิ่งเหล่านี้มาเล่าเรื่องราว ประสบการณ์ช่วง 10 ปี ในการเป็นไอดอล ทำงานแบบวันชนวันๆ ตลอด ทำให้ไม่มีเวลาที่จะมานั่งคิดเลยว่าจะมีอะไรเป็นแรงบันดาลใจในการทำอัลบั้มต่างๆ พอในช่วงเวลาว่าง 1 ปี ได้มานั่งคิดว่ายังไม่เคยทำเพลงเพื่อตัวเองเลย ก็เลยใช้ช่วงนี้ในการมาเล่าเรื่องราวผ่านเพลง มานั่งเขียนไดอารี มาพูดถึงความจริงเรื่องราวต่างๆ ที่เจอ และนำไดอารีเหล่านี้มาเรียบเรียงผ่านบทเพลง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เพลงล่าสุด GBAD ได้กระแสตอบรับที่ดีจากแฟนๆ รวมไปถึงมีศิลปิน, อินฟูลฯ และแฟนเพลง ได้ทำชาเลนจ์ลงโซเชียลด้วย รู้สึกอย่างไรบ้าง แจ็คสัน หวัง กล่าวว่า ขอบคุณครับ ขอบคุณที่สนับสนุนผลงาน และใช้แพลตฟอร์มของทุกคนเป็นตัวช่วยในการสนับสนุน อยากให้ทุกคนได้รับรู้เรื่องของ แจ็คสัน หวัง ที่ส่งผ่านข้อความในเพลง
ส่วนเรื่องแรงขับเคลื่อนในการทำงาน แจ็คสันเผยว่า ไม่จำเป็นที่จะรู้สึกว่าจะต้องลุกมาทำงานในแต่ละวันเลย เพราะการทำงานในแต่ละวันเป็นสิ่งที่รักอยู่แล้ว ฉะนั้นเลยไม่รู้สึกว่ามันเป็นมิสชันอะไรเลย แต่มันเป็นการเอ็นจอยในสิ่งที่ทำมากกว่า
ผู้สื่อข่าวได้ขอให้รีวิว แจ็คสัน หวัง ในวัย 31 ปี ซึ่ง แจ็คสัน ตอบว่า
“โอ้มายก็อด! แจ็คสันในวัย 31 เป็นแจ็คสันที่รู้สึกว่ามีความมั่นใจว่าอะไรคือสิ่งที่ใช่ในชีวิต รู้สึกว่าต้องเดินไปทางไหนมากกว่า เพราะว่าแจ็คสันในวัยที่อายุ 20 กว่าๆ เป็นแจ็คสันที่พร้อมจะพุ่งชนกับทุกอย่าง ทำทุกอย่างไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนว่าควรจะไปทางไหน หรือควรทำอะไรดี แต่พอในวัยที่ 30 ขึ้นมาแล้ว ผมเริ่มรู้สึกว่าอะไรคือสิ่งที่ควรจะตัดทิ้ง อะไรคือสิ่งที่ควรไปต่อ
แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้หลังจากอายุ 30 ก็คือ รู้สึกว่าการฟื้นฟูของตัวเองมันน้อยลง ปกติผมจะสามารถร้องเพลงและเต้นได้อย่างไม่เหนื่อย แต่พออายุขึ้น 30 แล้ว เต้นๆ ร้องๆ นิดหน่อยก็จะรู้สึกเหนื่อย ทำให้แตกต่างจากตอนที่เป็นหนุ่มๆ (แต่ก็ยังหล่อเหมือนเดิม?) นั่นเป็นเพราะผมทำทรีตเมนต์ครับ ยกกระชับหน้าด้วย ผมทำมาเยอะ ไม่ง่ายนะจริงๆ (หัวเราะ) แต่มันก็แตกต่างจากตอนอายุ 20 อยู่ดี เมื่อก่อนคือสามารถที่จะดื่ม แล้วนอน 2 ชั่วโมง ก็ลุกขึ้นไปทำงานได้เลย แต่ตอนนี้ทำไม่ได้ครับ”
ส่วนที่ได้ฉายาว่าเป็น “เขยไทย” นั้น ได้ยินคำนี้มาจากรายการโหนกระแส เข้าใจความหมายของมัน แต่คิดว่ามันเป็นมุก มันไม่ใช่เรื่องจริง
แจ็คสันยังบอกอีกว่า ได้ไปเรียนภาษาไทยมา แต่เป็นคำที่ไม่สามารถพูดหน้ากล้องได้ เพราะเป็นคำที่เอาไว้ใช้พูดในเวลาที่รู้สึกโกรธ เลยพูดตอนนี้ไม่ได้ ก่อนที่จะลองฝึกพูดภาษาไทยเพิ่มใหม่อีก 2 ประโยคคือ “ทำเป็นเล่นนะครับ” และ “คิ้วส่งหน้า หน้าส่งชุด ชุดส่งคน คนส่งยิ้ม” แบบชัดเป๊ะๆ ภายในเวลาไม่กี่วินาที ก่อนจะพูดกับทุกคนว่า “ง่ายมากๆ”
สุดท้าย แจ็คสัน กล่าวถึงแฟนๆ ว่า ไม่ได้อยากที่จะโปรโมตอัลบั้มใหม่ตอนนี้ แต่มีข้อความที่อยากจะฝากถึงแฟนๆ ทุกคนว่า จริงๆ แล้วโลกใบนี้มันโกลาหลวุ่นวายมาก ชีวิตเราก็ต้องผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมาย บางครั้งมันอาจจะทำให้เราลืมไปว่าเราต้องรักตัวเองด้วย
ฉะนั้น บางครั้งที่เรายอมเป็นคนไม่ดีหรือเห็นแก่ตัวบ้าง มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร อยากให้ทุกคนรักตัวเองมากขึ้น ในฐานะที่เป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ ก็อยากทำหน้าที่มอบความสุขและรอยยิ้มให้กับทุกคน
“เวลาที่ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จ กลับมาแล้วมองมาที่ผม ผมก็จะรู้สึกว่ามีความสุขมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นทุกคนอย่าลืมรักตัวเองมากๆ ด้วยนะครับ”
ที่มา : มติชน