จากกรณีหญิง อายุ 63 ปี หอบเอกสารสลิปการโอนเงินเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อแจ้งความหลังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินเข้าบัญชีม้า สูญเงินกว่า 2.9 ล้านบาทที่เก็บมาทั้งชีวิต
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของหญิงคนดังกล่าวใน ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อจะขอดูประวัติหน้าแชตที่ใช้คุยกับมิจฉาชีพที่อ้างเป็นทหารหลอกให้โอนเงินสูญไป 2.9 ล้านบาท แต่หญิงคนดังกล่าวอ้ำอึ้งบ่ายเบี่ยง
ขณะเดียวกันนายทวี สาธุชาติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตะเกียบ ได้นำข้าวสาร นม น้ำ มามอบให้เพื่อจะให้กำลังใจและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะเกียบก็มาถึงที่บ้าน เพื่อจะขอข้อมูลหน้าแชต หญิงคนดังกล่าวจึงขึ้นไปบนบ้านพร้อมนำโทรศัพท์มาเปิดให้ดู ซึ่งก่อนหน้านั้นได้บอกกับตำรวจและผู้สื่อข่าวว่าโทรศัพท์เสีย
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกคนที่ได้เห็นแชตก็พากันตกใจเพราะในแชตนั้น หญิงคนดังกล่าวได้ส่งหน้าบุ๊กแบงก์ไปให้มิจฉาชีพและยังบอกว่า มิจฉาชีพที่แชตมาขอเงิน บอกว่า “คุณไม่ต้องการช่วยฉัน อย่าบอกฉันว่าไม่มีเงินที่จะชำระเงินนั้น? ขณะที่หญิงคนดังกล่าวก็ตอบกลับไปว่า “เมื่อไรคุณจะคืนเงินฉัน ฉันอยากได้เงินคืนแล้วจะได้มีความสุขกับเขาบ้าง จะได้มีเงินใช้บ้างคุณคืนฉันมาเถอะ”
ต่อมา หญิงคนดังกล่าวได้โทรศัพท์ไปหา พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ไหมงำ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมยินดีจะให้ข้อมูลทั้งหมดรวมถึงหน้าแชตส่วนตัวที่ตอนแรกไม่ให้ ด้วยหวังยังจะได้เงินจากมิจฉาชีพคืน พร้อมยอมรับว่าพอนายทวี ที่เป็นเพื่อนสนิท ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้านมานั่งคุย จึงได้สติและจะให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่อย่างเปิดใจต่อไป