ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านชาย อายุ 45 ปีใน ต.ยะวึก อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เจ้าของ ‘เจ้าสีทอง’ สุนัขพิทบูล เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีมีข้อมูลอ้างว่า ชาย อายุ 69 ปี จยย. ล้ม และสาเหตุอาจเป็นเพราะสุนัขพันธุ์พิทบูลตัวดังกล่าววิ่งตัดหน้า
เจ้าของสุนัขเปิดเผยหลักฐาน เป็นกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในขณะที่ จยย. วิ่งมาตามไหล่ทางและเกิดอุบัติเหตุล้มลงนั้น ไม่มีภาพของสุนัขวิ่งตัดหน้ารถ หรือกระโจนเข้าใส่แต่อย่างใด
“ผมมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าสุนัขของผมไม่ได้กัดใคร และไม่ได้ทำร้ายใครแน่นอน” เจ้าของกล่าว พร้อมยืนยันว่าตนเองได้รับความเสียหายจากการถูกกล่าวหาผ่านโซเชียลมีเดีย “ข่าวที่ออกไปตอนแรกทำให้ผมเสียหายหนักมาก ผมอยากให้ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนนำเสนอ เพราะมันส่งผลต่อชีวิตผมจริงๆ ผมเข้าใจคู่กรณีนะครับ และเห็นใจเขา แต่ในขณะเดียวกันผมเองก็ถูกสังคมพิพากษาไปแล้วโดยไม่มีหลักฐานแน่ชัด”
เจ้าของเน้นย้ำว่า พิทบูลไม่ได้โหดร้ายอย่างที่หลายคนคิด สุนัขตัวนี้ถูกเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก และไม่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าว อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าสุนัขของตนตัวใหญ่ และอาจทำให้บางคนรู้สึกหวาดกลัวได้
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเจ้าของคลิปเหตุการณ์ต้นเรื่อง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลแห่งหนึ่ง ได้อธิบายว่า ตนเป็นผู้ที่ผ่านมาพบเหตุการณ์และพยายามเข้าช่วยเหลือ โดยในคลิปที่เผยแพร่ออกไปนั้น มีเสียงของตนพูดว่า “หลบหมาตัวนี้จึงทำให้รถล้ม” ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม
ตอนนั้นตนได้ยินชาวบ้านพูดกันว่ารถล้มเพราะต้องหลบหมา ตนก็เลยพูดตามในคลิปไปแบบนั้น แต่ตนเองก็ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่แท้จริงว่าหมาวิ่งตัดหน้ารถหรือไม่
หลังจากดูคลิปอีกครั้ง ตนพบว่าจุดเกิดเหตุจริงๆ นั้น คนบาดเจ็บกับหมาอยู่ห่างกัน ไม่ได้อยู่ใกล้กันเลย พิทบูลนอนอยู่ในคูน้ำ ในขณะที่คนเจ็บนอนอยู่ริมถนน ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า อุบัติเหตุอาจไม่ได้เกิดขึ้นจากสุนัขโดยตรง แต่อาจเกิดจากปัจจัยอื่น เช่น ความตกใจ หรือการเสียหลักขณะขับขี่
“ต้องขออภัยด้วยหากทำให้หลายคนเข้าใจผิด เพราะหมาตัวนี้มีลักษณะอ้วน ขุนดี และไม่ได้มีท่าทีดุร้ายแต่อย่างใด” เจ้าของคลิปกล่าว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้ทำการทดสอบพฤติกรรมของ เจ้าสีทอง ต่อหน้าชาวบ้าน โดยให้ชาวบ้านขี่ จยย. ผ่านเส้นทางหน้าบ้าน
ครั้งที่ 1 สุนัขยังคงอยู่เฉยๆ ไม่มีท่าทีจะวิ่งไล่หรือกระโจนใส่
ครั้งที่ 2 สุนัขยังคงนั่งนิ่ง ไม่มีการไล่กัดหรือวิ่งตัดหน้ารถ
ครั้งที่ 3 เมื่อชาวบ้านทดลองขี่ จยย. ย้อนศรกลับมา สุนัขก็ยังคงไม่มีอาการก้าวร้าว มีเพียงแค่เดินเข้าไปดมเบาๆ แล้วก็เดินกลับ
จากการตรวจสอบบริเวณเกิดเหตุเบื้องต้น พบมีลักษณะเป็นไหล่ทางลาดชัน และมีขอบถนนที่ต่างระดับ ซึ่งอาจส่งผลให้ จยย. เสียหลักได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้ยังเป็นเพียงการสันนิษฐานเบื้องต้น และต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม
ส่วนเรื่องทางคดี ณ ขณะนี้ ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด โดยทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรอคำให้การจากผู้บาดเจ็บ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เพื่อนำไปสู่ข้อสรุปที่ชัดเจนและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย