สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกาย มีผู้เสียีชิวิต เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่เกิดเหตุพบร่างชาย อายุ 47 ปี นอนหงายเลือดอาบอยู่ในเปลหน้าบ้านอาการสาหัส หน่วยกู้ชีพจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน คือ ชาย อายุ 75 ปี เป็นพ่อของผู้เสียชีวิต ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่พร้อมจอบเปื้อนเลือดที่ใช้ก่อเหตุ
ยอมรับสารภาพว่า ก่อเหตุฆ่าลูกชายของตัวเองจริง เนื่องจากบันดาลโทสะและสุดทนกับพฤติกรรมที่ดื่มเหล้าเมาทุกวัน และชอบหาเรื่องชวนทะเลาะ ด่าทอด้วยคำหยาบคาย ทำร้ายร่างกายหลายครั้ง บางครั้งถึงกับเลือดตกยางออกก็อดทนมาตลอด กระทั่งล่าสุด ขณะตนนั่งกินข้าวอยู่ในบ้าน ลูกชายซึ่งเมามาเหมือนทุกวัน ได้เดินเข้ามาหาเรื่อง ด่าทอแล้วปรี่เข้าชกตนที่หน้าอย่างแรง 1 ครั้ง จนหงายท้อง โดยทำต่อหน้าลูกชายคนโตที่ป่วยติดเตียงอยู่ แต่ช่วยอะไรไม่ได้ ได้แค่ตะโกนห้าม
หลังจากต่อยเสร็จก็ยังพูดโวยวายไม่หยุด ตนจึงรู้สึกโกรธ เดินไปคว้าจอบอยู่ข้างบ้าน กระหน่ำตีที่ศีรษะลูกชายที่นอนอยู่ในเปลหน้าบ้านแบบไม่ยั้ง เท่าที่จำได้น่าจะตีไปกว่า 20 ครั้งจนเลือดอาบและแน่นิ่งไป หลังก่อเหตุเสร็จก็ไม่ได้หนีไปไหน รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่
ตนต้องทนถูกลูกขี้เมาด่าทอ และทำร้ายร่างกายมาตลอดกว่า 10 ปี แต่ครั้งนี้รับไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงได้ทำร้ายลูกจนเสียชีวิต หัวอกคนเป็นพ่อก็เสียใจ ไม่มีใครอยากฆ่าลูกตัวเอง แต่ถ้าวันนี้ลูกไม่ตาย ไม่รู้วันไหนลูกจะฆ่าตนเองตาย
ด้านพี่ชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งพิการติดเตียง เล่าว่า ที่ผ่านมาน้องเมาและทำร้ายพ่อเป็นประจำ บางครั้งถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล แต่ด้วยความที่ตนเองพิการ จึงไม่สามารถช่วยเหลือพ่อได้ และตนเองก็เคยถูกน้องชายขู่จะฆ่าเหมือนกัน กระทั่งวันนี้พ่อก็นั่งกินข้าวอยู่ น้องชายก็หาเรื่องทะเลาะกับพ่อ แล้วพูดท้าทายกันไปมา ก่อนที่น้องชายจะเข้าไปชกหน้าพ่อขณะที่นั่งกินข้าวอยู่จนพ่อล้มหงายท้อง
ตนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่ทำอะไรไม่ได้ บอกแค่ให้พ่อใจเย็น จากนั้นน้องก็เดินไปนอนที่เปลหน้าบ้าน พอพ่อกินข้าวเสร็จก็เดินไปเอาจอบกระหน่ำตีน้องชาย ตนได้แต่ตะโกนห้าม สงสารและเห็นใจพ่อที่ทนกับสภาพนี้มานานแต่ก็ไม่อยากให้พ่อทำร้ายน้องถึงขั้นเสียชีวิต และไม่อยากให้พ่อต้องมาติดคุกตอนอายุมาก