แม่สะเทือนใจ โจรทุบเบ้าเก็บศพลูกชาย ลักเงินผี เผยจะไม่แจ้งความ ไม่จองเวร แต่ขออย่าทำแบบนี้กับใครอีก

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์รูปเบ้าฝังศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ซึ่งทำด้วยท่อซีเมนต์ แต่ฝาท่อถูกเปิดออก โดยมีกิ่งไม้ปกคลุมอยู่บนเบ้า พร้อมระบุข้อความว่า “มีใครสามารถให้ข่าวได้บ้าง ขี้ยาไปทุบเบ้าเอาเงินกับศพที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ บ้านสินเจริญ อ.เพ็ญ อุดร” โพสต์ดังกล่าวมีคนเข้าไปคอมเมนต์กันจำนวนมาก หลายคนบอกว่าสงสารญาติ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดป่าพระนาไฮ บ้านสินเจริญ ต.เตาไห อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ พบ ‘พระเรืองเดช เนื่องแก้ว’  56 ปี พระลูกวัด และ ชาย อายุ 77 ปี ทวดของผู้เสียชีวิต นั่งอยู่บนกุฏิ เมื่อสอบถามเรื่องคนร้ายทุบเบ้าเก็บศพเพื่อลักเงินนั้น ก็ได้รับการยืนยันว่า เกิดขึ้นจริง พร้อมพาเดินไปที่ป่าช้า พบเบ้าเก็บศพที่ทำจากท่อซีเมนต์วางต่อกัน 4 ท่อ โผล่พ้นดินขึ้นมาครึ่งท่อ ฝาปิดเบ้าถูกโบกใหม่ด้วยปูนและแห้งสนิทแล้ว

ชาย อายุ 77 ปี ทวดของผู้เสียชีวิต เล่าว่า เหลนอายุ 20 ปี เสียชีวิตจากการขี่ จยย. ชนท้ายรถกระบะ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยนำมาสวดอภิธรรมที่วัดแห่งนี้ 1 คืน พอบ่ายวันที่ 15 เม.ย. ก็นำร่างมาเข้าเบ้าไว้ เพราะว่าตายผิดธรรมชาติ จะต้องนำมาฝังหรือเข้าเบ้าเก็บไว้ 3 ปี จึงจะนำขึ้นมาฌาปนกิจ ตามประเพณีของชาวบ้าน หากเผาทันทีจะทำให้มีคนในหมู่บ้านหรือญาติพี่น้องเสียชีวิตเพิ่มอีก

ช่วงบ่ายได้ทำพิธีเอาร่างเข้าเบ้าไว้แล้ว จากนั้นก็มีญาติมาบอกว่า มีขโมยซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร มาเปิดฝาเบ้าที่คาดว่าปูนยังไม่แห้ง ขโมยเอาเงินที่ญาติ เพื่อน และชาวบ้าน ใส่ในโลงศพไปเป็นการทำบุญกับผู้ตาย ให้เอาเงินไปซื้อที่ดินเป็นที่อยู่ในภพภูมิหน้า ไม่รู้จำนวนกี่บาท

ไม่มีผู้พบเห็นคนร้าย ไม่รู้ว่าเป็นใคร ตนเกิดมาก็ไม่เคยพบเห็นเรื่องขโมยเงินผีแบบนี้ การทำแบบนี้ถือว่าไม่ดี จะเกิดอาถรรพ์ ใครมาทำลายเบ้าศพขอให้มีอันเป็นไป อย่าให้เจริญ ก็ขอให้ผู้ตายตามไปเอาเงินกับหัวขโมยกลับคืนมา

จากนั้น หญิง อายุ 50 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต และ หญิง อายุ 22 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ป่าช้า ผู้เป็นเป็นแม่ เผยว่า ตนเองมีลูก 2 คน ผู้เสียชีวิตเป็นคนเล็ก หลังเรียนจบ ม.3 ก็มาเปิดร้านซ่อม จยย. ที่บ้าน เพราะว่าร่างกายเขาไม่ค่อยจะแข็งแรง

เย็นวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา หลังกินข้าวเย็น ลูกชายบอกตนว่าจะไปหาเพื่อนที่ อ.บ้านดุง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 20 กม. ตนได้ห้ามลูกว่าไม่ต้องไป แต่ลูกบอกว่านัดกับเพื่อนแล้ว จึงขี่ จยย. ออกจากบ้านไป แต่ออกไปได้ประมาณ 6 กม. ก็เกิดอุบัติเหตุที่บ้านโนนสีทอง ถนนสุมเส้า-บ้านดุง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที

หลังนำร่างมาเข้าเบ้าเก็บไว้ที่ป่าช้ายังไม่ทันข้ามวัน ก็มีคนมาเปิดฝาเบ้าขโมยเงินในโลงศพไป ประมาณ 3,000 กว่าบาท ซึ่งเป็นเงินที่ญาติ เพื่อน และชาวบ้าน ใส่ให้ผู้เสียชีวิตเอาไว้ใช้ในภพภูมิหน้า

โดยหลังจากทำพิธีนำศพเข้าเบ้าเสร็จแล้ว ก็พากันขึ้นไปบนศาลาวัด และกลับบ้านไปทำอาหารให้แขกรับประทาน ต่อมาตนได้ขี่ จยย. กลับมาที่วัด มองเห็นระยะไกลประมาณ 200 เมตร พบผู้ต้องสงสัยเดินเข้ามาที่เบ้าของลูก แต่ตอนนั้นตนไม่ได้สนใจ นึกว่ามีคนรู้จักกันมาดูที่ฝังศพลูก ซึ่งตนคิดว่าไม่ใช่คนในหมู่บ้าน น่าจะเป็นคนต่างหมู่บ้าน

ต่อมา พ่อผู้เสียชีวิตได้นำพวงหรีดที่คู่กรณีนำมาแสดงความเสียใจมาวางไว้บนเบ้า ก็พบว่าฝาเบ้าเปิดออก จึงได้เปิดฝาออกตรวจดูโลงศพ ก็พบว่าในโลงเหลือแค่แบงก์ 20 บาท 1 ใบ และมีแบงก์ 20 บาท อีก 1 ใบ ตกอยู่หน้าเบ้า

รู้สึกโกรธและน้อยใจ ไม่อยากให้มาทำแบบนี้กับศพลูก ทำไมถึงอยากได้เงินมากขนาดนี้ คนเราต้องมีจิตสำนึก อยากฝากถึงคนที่มาขโมยเงินศพ อย่าทำแบบนี้อีกไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม เพราะเป็นการทำลายจิตใจคนเป็นแม่

ส่วนผู้ต้องสงสัยไม่ใช่คนในหมู่บ้าน จะเป็นคนนอกหมู่บ้าน หรืออาจจะเป็นคนมาร่วมพิธี เพราะวันที่เอาศพเข้าเบ้า ที่วัดก็มีงานแก้บนและมีหมอลำซิ่ง มีคนจำนวนมาก ผู้ก่อเหตุซึ่งอาจจะมาดูพิธี พอเห็นเงินมาก ก็อยากได้เลยมาทุบฝาเบ้า

ตนไม่ขอแจ้งความเอาผิดใคร เพราะไม่อยากจองเวรจองกรรมกับใคร อยากให้ลูกไปสู่สุคติ ให้คนร้ายไปซะ ถือว่าให้เป็นบุญกุศลของลูกไปสู่ภพภูมิที่ดี

จากนั้น แม่และพี่สาว ได้ไปบอกกล่าวที่หน้าเบ้าว่า ไม่ต้องไปจองเวรจองกรรมกับใคร ให้ไปพบภูมิที่ดี ไปอยู่ที่ดีๆ ไปเป็นเทวดา เกิดชาติหน้าให้เป็นคนดีคนงามเหมือนเดิม อย่าเอาโรคภัยมาด้วย และอย่ามาเกิดอุบัติเหตุจากกันไปแบบนี้ ให้อายุยืนยาวจนถึงแก่เฒ่า ไม่ต้องไปจองเวรกับผู้ที่มาก่อเหตุ ขอให้ได้รับส่วนบุญที่แม่ทำให้ก็พอ

ด้านพระเรืองเดช กล่าวว่า ที่วัดไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เลย นี่เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร อยากฝากบอกว่า มันจะตกนรกหมกไหม้ เป็นบาปเป็นกรรม วิญญาณเจ้าของเงินจะเฮี้ยนและตามไปทวงเงินคืน