จากกรณีพระนักเทศน์ชื่อดังจังหวัดบุรีรัมย์ ไลฟ์ด่าชาวสุรินทร์ และพูดว่าอยากให้กัมพูชายิง ทำให้ชาวสุรินทร์ลุกฮือ เกิดความไม่พอใจ ล่าสุดชาวบ้านในพื้นที่บ้านตระแบก ตำบลไพร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยเป็นพี่เป็นน้องกับพระนักเทศน์ต่างไม่พอใจต่อพฤติกรรมดังกล่าว ได้ทำพิธีกรรมตัดขาด ไม่นับเป็นญาติพี่น้องสายเลือดอีกต่อไป และเรียกร้องให้พระนักเทศน์ออกมาขอโทษชาวสุรินทร์
ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับญาติที่ทำพิธีตัดขาดสายเลือด เล่าว่า ตนเองเป็นญาติพี่น้องโดยสายเลือดกับพระนักเทศน์ หลังจากที่เห็นคลิปแล้วรับไม่ได้ ตนเองเองเติบโตอยู่ด้วยกันมากับพระนักเทศน์ตั้งแต่เด็กจนโต ตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมท่านถึงมีนิสัยแบบนี้ อยากฝากบอกว่า ต่อไปอย่ามาเหยียบจังหวัดสุรินทร์และอย่ามาเหยียบหมู่บ้านอีก ถ้าเห็นโดนแน่ อย่าให้เจอก็แล้วกันนับแต่นี้ต่อไปเราขาดกัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลมาว่า พระนักเทศน์เคยเป็นเจ้าอาวาสที่วัดศรีสกล ตำบลตำเคียน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์และได้ไปพูดคุยกับพระที่อยู่ในวัด เล่าถึงเรื่องราวที่พระนักเทศน์โดนชาวบ้านขับไล่ออกจากวัด เมื่อปี 2534
พระ อายุ 68 ปี เล่าว่า ลูกวัดเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2534 สมัยนั้นเป็นช่วงสงครามกัมพูชา และฝั่งนั้นได้ฝังศพทหารและพลเรือน ตอนนั้นพระนักเทศน์ยังเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่นี่ ได้ไปขุดเอากระดูกผีตายโหงมาทำพิธีคุณไสย และฝังกระดูกอยู่ใต้ศาลา ชาวบ้านรู้เรื่องจึงได้รวมตัวกันขับไล่ออกจากวัด เพราะกลัวจะเป็นอาเพศ
ด้านชาวบ้าน เล่าว่า พระนักเทศน์มีนิสัยก้าวราว เคยจะต่อยกับญาติโยม สมัยบวชเป็นเจ้าอาวาสเคยเล่นคุณไสย ไปขุดเอากระดูกผีตายโหงมาเล่นของและฝังไว้ใต้ศาลา ชาวบ้านจึงรวมตัวกันขับไล่ออกจากวัด
ส่วนชาวบ้านอีกคน บอกว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่า พระนักเทศน์สาปแช่งคนสุรินทร์ ตนรู้สึกเสียใจ เสียดายข้าวที่ไปตักบาตรทำบุญจริงๆ สาปแช่งยังไงก็ขอให้กลับไปหาแบบนั้น เพราะชาวบ้านไม่เคยไปทำอะไรให้