เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ที่เกิดเหตุ ภายในบริษัทแห่งหนึ่งริมถนนเทพารักษ์ กม.19 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุภายในบริษัทดังกล่าวพบ ชาย อายุ 28 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน อาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นชาย อายุ 48 ปี หลังก่อเหตุทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ในที่เกิดเหตุแล้วเดินเท้าหลบหนีไป โดยมีผู้ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นพนักงานโรงกลึง ซึ่งอยู่ในซอยใกล้กับที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงนำกำลังเข้าปิดล้อม แต่ผู้ก่อเหตุไหวตัวทันหลบหนีออกด้านหลังโรงงานแล้วไปหลบซ่อนอยู่ในป่าภายในซอยบางปลา 77 จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ ก่อนนำไปชี้จุดเก็บปืน และนำตัวมาทำแผนในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่า ผู้ก่อเหตุ ขี่รถ จยย.มากับชาย อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของเพื่อนของผู้เสียชีวิต มาทวงเงินที่เพื่อนของผู้เสียชีวิตติดหนี้ไว้ประมาณ 1 พันกว่าบาท ระหว่างนั้นก็มีปากเสียงกัน ซึ่งเรื่องหนี้สินเจ้าหนี้กับลูกหนี้พูดคุยกันลงตัวแล้ว แต่เพื่อนของทั้งสองฝ่ายกลับมีปากเสียงกัน จนผู้เสียชีวิตลงมือชกต่อยกับเพื่อนของเจ้าหนี้ แต่เพื่อนของเจ้าหนี้สู้ไม่ได้ จึงกลับไปเอาปืนที่บ้านแล้วมาที่ก่อเหตุดังกล่าว โดยมาคนเดียว ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนยิงจากด้านนอกเข้ามาในบริษัทถูกคู่กรณีจนเสียชีวิต
เพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเป็นหนี้ 1 พันกว่าบาท เจ้าหนี้จึงมาทวงเงิน โดยพาเพื่อนของเจ้าหนี้มาด้วย ซึ่งตนกับเจ้าหนี้ตกลงพูดคุยกันลงตัวแล้ว แต่เพื่อนของเจ้าหนี้กับเพื่อนของตนคือผู้เสียชีวิต เกิดมีปากเสียงกัน ผู้เสียชีวิตชกเพื่อนของเจ้าหนี้ตนจนล้ม เพื่อนของเจ้าหนี้จึงกลับไปเอาปืนแล้วมายิงจนเพื่อนตนเสียชีวิต
ด้าน ผู้ก่อเหตุ หลังถูกจับกุมตัวรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง สาเหตุที่ลงมือ เพราะถูกผู้เสียชีวิตชกก่อน จึงกลับไปเอาปืนที่บ้านมายิงคู่กรณีจนเสียชีวิต ผู้เสียชีวิตไม่พอใจที่ตนไปพูดว่า ต้องใช้หนี้บ้าง ทยอยจ่ายให้ก่อน นิดๆหน่อยๆ จึงมีปากเสียงกัน ส่วนปืนที่ใช้ เป็นปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38
เบื้องต้นหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ถ่ายภาพเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมนำผู้ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มอบร่างผู้เสียชีวิตให้หน่วยกู้ภัยส่งชันสูตร ทั้งนี้จะติดตามตัวเจ้าหนี้ เข้ามาให้ปากคำในฐานะพยานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป