จากกรณีนายบอย (นามสมมติ) อายุ 24 ปี พนักงานขับรถบริษัทเอกชน เข้าร้องเรียนต่อ ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ผู้ก่อตั้งเพจ ดร.แก้วช่วยได้ และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี หลังถูกอดีตแฟนสาวหรือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ซึ่งรู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊กและคบหากันเพียง 4 เดือน หลอกให้โอนเงิน ใช้หนี้แทน และอ้างว่าตั้งครรภ์ รวมถึงมีเหตุทำให้โทรศัพท์มือถือสูญหาย เบ็ดเสร็จความเสียหายรวมเกือบ 100,000 บาท (อ่าน : รักมากช้ำมาก! หนุ่มวัย 24 ปี ถูกแฟนเก่าหลอกว่าตั้งท้อง-เซฟใบอัลตราซาวด์จากในเน็ต มาหลอกเงินไปเกือบแสน สุดท้ายผลตรวจยืนยัน ไม่ได้ท้องตั้งแต่แรก)
นายบอย เปิดเผยว่า ตนทุ่มเทความรักและดูแลฝ่ายหญิงด้วยความจริงใจ แต่กลับถูกหลอกซ้ำซากจนต้องตัดสินใจเปิดเผยเรื่องราว เพื่อเตือนภัยสังคม พร้อมทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีกับฝ่ายหญิงโดยเร็ว โดยยังระบุว่า มีกรณีที่ น.ส.บี (นามสมมติ) หนึ่งในเจ้าหนี้ของ น.ส.เอ ถูกทำร้ายร่างกาย ขณะเดินทางไปพูดคุยกับครอบครัวของ น.ส.เอ ที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเจรจายุติความขัดแย้งแต่ไม่เป็นผล
ล่าสุด แม่ของ น.ส.บี อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกหนึ่งรายที่ปรากฏในคลิปถูกทำร้ายร่างกาย เดินทางพร้อมนายจอร์น (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ผู้ถ่ายคลิป เข้าร้องเรียนกับ ดร.ปรเมศร์ โดยนำหลักฐานเป็นคลิปเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย และแชตของเพื่อนสนิท น.ส.เอ ที่ย้ายฝั่งมาให้ข้อมูลแฉพฤติกรรมเรื่องการยืมเงินแล้วไม่คืน รวมถึงมีความกังวล หลังถูก น.ส.เอ ข่มขู่จะดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก
น.ส.บี กล่าวว่า ตอนที่นายบอยมีปัญหาและแยกกันอยู่กับ น.ส.เอ นายบอยได้มาถามตนว่า น.ส.เอคืนเงินที่ยืมไปหรือยัง พร้อมกับบอกว่าจะไปหา น.ส.เอ และถามว่าตนจะไปด้วยไหม ซึ่งตนคิดว่าแม้จะไปก็คงไม่ได้เงินคืน แต่ตนตัดสินใจไปด้วย เพื่อให้ญาติของ น.ส.เอ รู้ว่า น.ส.เอเป็นหนี้ตน แต่เมื่อไปถึงยังไม่ได้เข้าไปในบ้าน นายบอยก็เข้าไปคุยกับ น.ส.เอก่อน ส่วนตนยังยืนอยู่ด้านนอก จากนั้น น.ส.เอได้กวักมือเรียกให้ตนเข้าไปในบ้าน พอเข้าไป นายบอยก็เรียกให้ตนออกมา แต่ในจังหวะที่ตนยังไม่ทันได้เดิน น.ส.เอก็มากระชากหัวตนอย่างแรง
ขณะนั้นนายบอยพยายามจะเข้ามาช่วย แต่กลับถูกยายของ น.ส.เอมากระชากหัวอีกคนอย่างแรงเช่นกัน หลังจากเหตุการณ์นั้น ตนรีบออกมาจากบ้านทันทีและไปแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว
ภายหลังตนได้ทักไปหา น.ส.เอ หลังกลับจากโรงพัก แต่ไม่ตอบ ตนพยายามทวงเงินแต่ก็ถูกเลื่อนตลอด น.ส.เอมักอ้างว่าท้องแล้วหายตัวไป ทุกครั้งที่ตนติดต่อไปก็บอกว่าท้อง ซึ่งพูดมาแล้วประมาณ 3-4 ครั้ง ตนอยากฝากบอก น.ส.เอ ว่า ให้หาเงินมาใช้หนี้ อย่ามาโกหกว่าท้องซ้ำ ๆ แบบนี้อีก เพราะคำพูดไม่มีความน่าเชื่อถือเลย
นายจอร์น กล่าวว่า ตนเป็นคนถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้เพราะกลัวว่าจะเกิดการทะเลาะรุนแรง จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เผื่อเกิดปัญหาจะได้ใช้ยืนยันได้ ตนไปกับเพื่อนและนายบอย โดยนั่งรถกันไปคนละคัน และนัดเจอกันที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในซอยกิ่งแก้ว 37 เมื่อถึงที่หมาย นายบอยลงจากรถไปเคลียร์ปัญหา ส่วนตนยังอยู่ในรถ แต่ด้วยความอยากรู้เรื่องจึงลงไปดู เห็นว่านายบอยกำลังพูดคุยกับ น.ส.เอ และเริ่มมีปากเสียงกัน
ตนเห็นท่าไม่ดีจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปไว้ จากนั้น น.ส.เอได้เรียกเพื่อนของตน คือ น.ส.บีเข้าไปในบ้าน มีการพูดคุยกัน ต่อมา น.ส.เอก็ได้กระชากผมของ น.ส.บี ตามที่ปรากฏในคลิป นายบอย และแม่ของเขาจึงเข้าไปห้าม ฝั่งยายของ น.ส.เอก็เข้ามากระชากหัวเพื่อนของตนอีก
หลังเกิดเหตุ น.ส.เอขู่ว่าจะเอาเรื่องข้อหาบุกรุก พร้อมอ้างว่าตาของเขาเป็นทหาร และรู้จักกับตำรวจ สน.ประเวศ ตนรู้สึกกังวลว่าคดีที่เพื่อนตนถูกทำร้ายร่างกายจะไม่มีความคืบหน้า และตนเองอาจถูกแจ้งข้อหาบุกรุก ทั้งที่ไม่มีเจตนาอะไร เพียงแค่เข้าไปเพราะเป็นห่วงเพื่อน
ซึ่งก่อนที่ น.ส.เอมาคบกับนายบอย น.ส.เอเคยมีแฟนมาแล้ว 2 คน โดยนายบอยเป็นแฟนคนที่ 3 ส่วนแฟนคนที่ 2 ชื่อ นายอาร์ม (นามสมมติ) ได้มาให้ข้อมูลกับตนว่าเคยถูก น.ส.เอหลอกว่าท้อง แล้วอ้างว่าแท้งเช่นกันหลายครั้ง และ น.ส.เอติดปั่นสล็อตมาตั้งแต่ก่อนจะคบกับนายบอย เคยมีพฤติกรรมขโมยเงินของแฟนเก่าไปเล่นพนัน ซึ่งพฤติกรรมเป็นแบบนี้เช่นเดียวกับที่นายบอยถูกกระทำ
ส่วนตัวตนรู้จักกับ น.ส.เอ เพราะเป็นเพื่อนของเพื่อน เคยเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยกัน ตอนคบกันใหม่ๆ น.ส.เอดูเหมือนเป็นคนเทคแคร์ดูแลดี แต่พอเวลาผ่านไปกลับไม่ใช่ ใครหมดผลประโยชน์ก็โดนถีบหัวส่ง ตนได้ส่งแชตหลักฐานต่างๆ ให้กับนายบอย เพื่อแฉพฤติกรรมของ น.ส.เอ เนื่องจากเพื่อนหลายคนเคยให้โอกาสแล้ว แต่ไม่เคยฟัง
ด้านแม่ของ น.ส.บี กล่าวว่า หลังจากเห็นคลิปที่ลูกสาวถูกกระชากหัว รู้สึกเสียใจและแย่มาก หลังทราบเรื่องจึงรีบพาลูกไปแจ้งความ วันเกิดเหตุ ลูกของตนก็ไม่สบายอยู่แล้ว ตอนนี้ตนรู้สึกกังวลมาก กลัวว่า น.ส.เอจะย้อนกลับมาทำร้ายลูกอีก นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่า น.ส.เออาจจะแจ้งความกลับว่าลูกของตนบุกรุก ทั้งที่ลูกตนเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน และเป็นผู้เสียหาย
ดร.ปรเมศร์ หรือดร.แก้ว กล่าวว่า หลังจากที่ตนรับเรื่องร้องเรียนจากนายบอย วันนี้ทางผู้ถูกทำร้ายร่างกายได้มีความกังวลความคืบหน้าคดีทำร้ายร่างกาย และมีความกังวลในเรื่องของการถูกขู่แจ้งข้อหาบุกรุก ตนได้รับเรื่องร้องเรียนไว้แล้วก็จะเตรียมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวที่ สภ.บางแก้ว ส่วนข้อหาบุกรุกจากการที่ดูคลิปหลักฐานในเบื้องต้นตนมองว่าอาจไม่เข้าข่ายในเรื่องบุกรุก อย่างไรก็ตามอยากฝากถึง น.ส.เอว่า คนเราทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย ถูกว่าไปตามถูก ผิดก็ว่ากันไปตามผิด ไม่ว่าจะเป็นบอยหรือ น.ส.เอ ทุกอย่างจะต้องจบที่กระบวนการตามกฎหมาย หรือหาก น.ส.เอมฃสำนึกได้ หากจะติดต่อตนมาตนก็พร้อมที่จะรับฟังและให้โอกาสเข้ามาพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้หลักฐานเป็นคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายบอยกับอดีตแฟนคนที่สองของ น.ส.เอ คือ นายอาร์ม ซึ่งเปิดเผยว่า ตอนที่ตนเคยคบกับ น.ส.เอ ก็บอกกับตนว่าท้องหลายครั้ง และได้นำที่ตรวจครรภ์มาให้ดู แต่เมื่อตนดูแล้วกลับเห็นว่าเหมือนใช้ปากกาแดงขีดเอง ตนจึงไม่เชื่อและไม่สนใจ เพราะก่อนหน้านั้นก็เคยถูกโกหกว่าท้องและแท้งมาแล้วหลายครั้ง นอกจากนี้ตนยังตกเป็นจำเลยในสายตาคนอื่น เนื่องจาก น.ส.เอ นำเรื่องของตนไปแต่งเรื่องนินทากับเพื่อนฝ่ายหญิงเอง จนมีคนมาด่าตนอยู่บ่อยครั้ง
ขณะคบกัน ตนได้พา น.ส.เอ เข้ามาอยู่ในบ้าน โดย น.ส.เอ อ้างว่าครอบครัวไม่ยอมรับ ตนจึงรู้สึกสงสารและพาเธอมาทำงานด้วย พร้อมให้เงินใช้ทุกวัน ต่อมาเกิดเหตุการณ์ที่ น.ส.เอ ไปโกหกพ่อแม่ของเธอเองว่า ตนเป็นคนให้มาขอเงิน ทั้งที่ตนไม่เคยรับรู้เรื่องนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว นอกจากนี้ น.ส.เอ ยังเคยขโมยรองเท้าแตะของแม่ตนไป และเมื่อถูกถามก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น จนกระทั่งมาถูกจับได้ในภายหลัง
ระหว่างที่คบกัน น.ส.เอ ยังนอกใจตนหลายครั้ง และเคยขโมยเงินของตนไปเป็นจำนวนมาก ครั้งสุดท้ายที่ตนตัดสินใจเลิกกัน น.ส.เอก็หยิบมีดขึ้นมาขู่ พร้อมบอกว่าหากตนเลิกกับเธอ เธอจะใช้มีดกรีดแขนตัวเอง นายอาร์มยังบอกอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่คบกับผู้หญิงคนนี้ ตนเสียสุขภาพจิตอย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ตนได้หลุดพ้นแล้ว จึงไม่ได้ติดใจหรือเอาความแต่อย่างใด เพียงแต่หลังมีข่าวออกมา ทางเพื่อนสนิทหลายคนได้ส่งข่าวนี้มาให้ตน จึงออกมาให้ข้อมูลกับเหยื่อรายใหม่ คือ นายบอยว่าตนก็เคยถูกกระทำเช่นเดียวกัน สาเหตุที่นำข้อมูลมาให้เพื่อที่จะให้ น.ส.เอปรับปรุงตัวและไม่ไปหลอกใครอีกในอนาคต