‘สมคิด เชื้อคง’ ส่งทนายลงบันทึกประจำวัน ถูกนำชื่อและตำแหน่งไปแอบอ้าง ยันไม่มีนโยบายเรียกรับผลโประโยชน์ เตือนอย่างหลงเชื่อ

นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจาก ‘นายสมคิด เชื้อคง’ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางเข้าลงบันทึกประจำวัน จากกรณีมีการแอบอ้างชื่อและตำแหน่งของนายสมคิด เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ ว่าตนได้รับมอบอำนาจจากนายสมคิดในการเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อที่จะทำการลงบันทึกประจำวัน ว่ามีบุคคลหรือคณะบุคคลได้มีการแอบทั้งการใช้ชื่อ ภาพ และตำแหน่งในการไปแสวงหาประโยชน์ ตามที่เป็นข่าว เพื่อดำเนินการไว้เป็นหลักฐานว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

โดยนายสมคิดยืนยันว่า “ไม่รู้ ไม่เกี่ยวข้อง หรือรู้จักกับบุคคลเหล่านี้ และไม่มีนโยบายลักษณะนี้ด้วย”

นายสมคิดถือเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นนักการเมืองน้ำดี เป็นอดีต สส. อุบลราชธานี และเป็นอดีตรองประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งวันนี้ได้รับความไว้วางใจให้มีตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เขารับไม่ได้ และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องแน่นอน หากมีการเอาชื่อตำแหน่งไปหากินหรือหาประโยชน์ตามที่เป็นข่าว จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด

ส่วนที่ดำเนินการลงบันทึกประจำวันไว้ เนื่องจากในทางคดีทางกฎหมาย การจะมาแจ้งความร้องทุกข์ได้ต้องเป็นผู้เสียหาย เช่น เป็นผู้ที่ถูกเรียกเงินเรียกทองหรือถูกตบทรัพย์ ซึ่งนายสมคิดเป็นผู้เสียหายในทางคดี ในแง่การถูกแอบอ้างชื่อ ซึ่งไม่ได้เป็นความผิดทางกฎหมาย แต่สิ่งที่เสียหายคือการเสียชื่อเสียง ในฐานะผู้มีตำแหน่งหน้าที่การงานในทางการเมือง จึงมอบให้ตนมาบันทึกประจำวันเพื่อที่จะยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้อง และฝากให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้

หากเกิดความเสียหายเกิดขึ้นกับผู้ใด ที่ได้จ่ายเงินจ่ายทองไปแล้วนั้น ขอให้ทางผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน พร้อมกันนี้ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีการช่วยเหลือซื้อขายตำแหน่ง ขอให้มีความระวังและอย่าให้เกิดความเสียหายแบบนี้ขึ้น

“นายสมคิดเหมือนต้นไม้ใหญ่ที่มีลูกหลานเข้ามาพบปะ มาขอความช่วยเหลือพึ่งพา ซึ่งเขาเป็นเป็นคนมีความมีเมตตาสูง ไม่ได้ใจร้ายใจดำ แต่คนที่เข้ามานั้นมีหลากหลาย จึงฝากให้ประชาชนระวัง พร้อมยืนยันว่า คนที่เป็นข่าวในขณะนี้ไม่ได้รู้จักหรือมีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นด้วยแต่อย่างใด พร้อมรับว่าเป็นครั้งแรกที่เจอกับเหตุการณ์แบบนี้” ทนายกล่าว