เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2568 เกิดเหตุชายวัย 47 ปี ขับรถแท็กซี่สีเขียว-เหลือง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร เดินทางไปเปิดห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดอำนาจเจริญ ก่อนก่อเหตุใช้มีดแทงแม่บ้านของโรงแรมกว่า 50 แผล เสียชีวิต ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แล้วหลบหนีออกจากพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ สามารถสกัดจับกุมตัวได้บนถนน
ความคืบหน้าล่าสุด เวลา 22.00 น. ที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ พ.ต.ท.ยอดรักษ์ ทองสง่า รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหากลับมาสอบสวนเพิ่มเติม เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหามีอาการพูดจาวกวน โดยกล่าวอ้างถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุว่า แม่บ้านผู้เสียชีวิตทำให้ครอบครัวของตนพังพินาศ และทำร้ายจิตใจมานาน จึงตัดสินใจกระทำเช่นนี้ พร้อมทิ้งท้ายว่า หากอยากรู้ว่าผู้ตายเคยทำอะไรไว้ ให้ไปถามครอบครัวของผู้ตายดู
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าห้องขังเพื่อให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำอย่างละเอียด และเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันที่ 23 เม.ย. 2568
มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า พ่อแม่ของผู้ต้องหาเป็นชาวจังหวัดอำนาจเจริญ แต่ย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาจึงเติบโตที่นั่น ก่อนที่พ่อแม่จะย้ายกลับภูมิลำเนาเมื่ออายุมากขึ้น ทางครอบครัวระบุว่าผู้ต้องหามีอาการทางจิต และทุกครั้งที่เดินทางมาจังหวัดอำนาจเจริญ มักไม่เข้าบ้านแต่ไปเช่าห้องพักอยู่เองเป็นประจำ
จากการสอบถามเพิ่มเติม ผู้ต้องหาให้การว่า ตั้งใจจะกลับมาเคลียร์ปัญหากับแม่ หากตกลงกันไม่ได้ก็จะลงมือฆ่าแม่ แต่เกิดอาการหลอน จึงลงมือทำร้ายแม่บ้านเสียก่อน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำเพิ่มเติม และส่งตัวให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยอาการทางจิต เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย
สำหรับเหตุการณ์ที่ชายคนดังกล่าวใช้มีดแทงแม่บ้านโรงแรมกว่า 50 แผลจนเสียชีวิตในห้องพัก ก่อนหลบหนีด้วยรถแท็กซี่ กระทั่งถูกตำรวจ สภ.กันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ สกัดจับกุมได้ ความคืบหน้าล่าสุดเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาควบคุมที่โรงพัก เพื่อเตรียมสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากเมื่อคืนผู้ต้องหายังให้การไม่ชัดเจน
พ.ต.อ.สุพล ร่วมสุข เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะมีการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม และอาจยังไม่สามารถทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ในทันที เนื่องจากเกรงว่าโรงแรมที่เกิดเหตุจะได้รับผลกระทบ ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังในวันรุ่งขึ้น
ขณะที่ช่วงเช้าวันเดียวกัน ญาติของผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาตรวจสอบและนำสิ่งของของผู้ต้องหาออกจากรถแท็กซี่ แต่ทางครอบครัวยังไม่สะดวกให้ข้อมูลใด ๆ กับสื่อมวลชน