จากกรณีพระ อายุ 60 ปี พระนักเทศน์สายฮาชื่อดังแห่งอีสานใต้ ไลฟ์ด่าชาว จ.สุรินทร์ ทั้งยังใช้คำพูดยุยงปลุกปั่น จนญาติๆ ยังรับพฤติกรรมไม่ได้ บอกว่าพระรูปนี้เป็นคนไทย ครอบครัวก็เป็นคนไทย แต่พระกลับมาพูดแบบนี้ จึงขอตัดขาดจากความเป็นญาติ โดยมีการทำพิธีตัดเลือดตามความเชื่อ ก่อนที่พระรูปดังกล่าวยังได้ไลฟ์บอกว่าจะอยู่ที่กัมพูชา ขอความกรุณารัฐบาลกัมพูชา อย่าจับอาตมาส่งกลับประเทศไทย ถ้าจะจับอาตมาส่งประเทศไทย อาตมาขอจบชีวิตตัวเองหน้าลานพระ ขอตายในแผ่นดินกัมพูชานั้น
‘นายฮุน มาเนต’ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดีย แชร์คลิปของพระรูปดังกล่าวลงเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความแปลเป็นภาษาไทยใจความว่า “รับสนองต่อคําขอของสาธุคุณหลวงพ่อ… ในฐานะนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และในนามของตน ขอต้อนรับตลอดเวลา ไม่เพียงแต่กับหลวงพ่อเท่านั้น แต่หากมีพระผู้เป็นเจ้าหรือเพื่อนชาวกัมพูชาคนใด ที่ถูกเบียดเบียนหรือทําให้อับอายเพราะท่านเป็นกัมพูชา หรือเพราะท่านเป็นพระหรือแสดงความเห็นของท่าน เพื่อปกป้องความยุติธรรม ศักดิ์ศรี และความเป็นธรรมของกัมพูชาในการปกป้องแผ่นดินเกิดของท่าน ข้าพเจ้าขอร้องและเชิญท่านและพี่น้องมาอาศัยในกัมพูชา”
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดใน ต.ป่าชัน อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นวัดที่พระรูปดังกล่าวเคยจำวัดอยู่ ปรากฏว่าที่วัดไม่มีพระแม้แต่รูปเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้จำวัดอยู่ 1 รูป ส่วนพระในข่าวเดินสายไปต่างประเทศ
หญิง อายุ 63 ปี ชาวบ้าน ต.ป่าชัน ได้ออกมาแสดงท่าทีที่ไม่พอใจอย่างรุนแรง บอกว่าให้พระรูปดังกล่าวไปอยู่กัมพูชาเลย ไม่ต้องกลับมาอีก ถ้ามาจะเอารองเท้าตบ เพราะไม่สำนึกบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่ชาวบ้านใส่บาตรให้ แถมยังเนรคุณประเทศบ้านเกิดอีก
ชาย อายุ 53 ปี สมาชิก อบต. ในพื้นที่ กล่าวว่า หลวงตาอยู่ฝั่งกัมพูชาดีแล้ว ถ้าคิดได้แบบนั้นก็ไม่ต้องกลับมาไทย ถ้ากลับมาก็ไม่มีใครต้อนรับแล้ว กลับมาทำไม มาก็ไม่ทำให้วัดเจริญได้ ขอให้โชคดี