สรุปที่อวดกันไม่ใช่ “ของลับ” ของเมีย นายจ้างเผยคนงานเลี้ยงเป็ดที่ฟันกันในวงเหล้า ต่างพาผู้หญิงมาที่เต็นท์ แต่ไม่ใช่เมีย

จากกรณี นาย ก. อายุ 48 ปี หนุ่มคนงานเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง ถูก นาย ข.  หนุ่มชาวลาว อายุประมาณ 35 ปี ฟันเข้าที่หู กลางศีรษะ และแขน เพราะนั่งกินเหล้าเมาแล้วอวดของลับของเมียของตนเองว่า ของลับของเมียของใครมีขนาดใหญ่กว่ากัน จนมีปากเสียงทะเลาะกัน สุดท้าย ผู้ก่อเหตุหลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณร้านค้ากลางซอย ถนนเรียบคลองเจ้า ม.9 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 

ล่าสุด เจ้าของเป็ด ผู้ว่าจ้างคนงาน เผยว่า ตนก็เพิ่งมารู้เมื่อเช้าว่าลูกน้องทะเลาะกันเรื่องของลับ แต่ที่อวดของลับกันไม่น่าจะใช่ของภรรยา เนื่องจากช่วงค่ำของทุกคืนจะมีผู้หญิงที่อยู่แถวๆ นี้ มาหานาย ก. และนาย ข.  และมักจะถือเหล้าขาวมานั่งกินกันบริเวณหน้าเต็นท์ของนาย ก. 

ซึ่งตนจะซื้อเหล้าขาววันละกั๊ก แจกลูกน้องอยู่แล้ว แต่มาทราบภายหลังว่าลูกน้อง เวลากินหมดแล้วก็จะออกไปซื้อเพิ่ม หรือบางทีผู้หญิงที่มาหาก็จะหิ้วเหล้ามาด้วย โดยนาย ก. ผู้บาดเจ็บ เป็นคนค่อนข้างดุกับเพื่อนร่วมงาน แต่จะสปอร์ตและใจดีกับผู้หญิง

โดยผู้หญิงที่มาหาก็จะได้เป็ดได้ไข่เป็ดกลับบ้านไปเป็นประจำ ซึ่งลูกน้องหลังเมาได้ที่แล้วก็เข้าไปนอนในเต็นท์ใครเต็นท์มัน โดยมีผู้หญิงที่มาหา เข้าไปด้วย ตนจึงคิดว่าที่ทั้งสองอวดของลับกันนั้น ไม่น่าจะใช่ของลับของเมียตัวเอง แต่น่าจะเป็นของผู้หญิงแถวนี้ที่มาหา 2 คนนี้

โดยปกติแล้วนาย ข. เป็นคนเงียบและกลัวนาย ก. แต่รอบนี้คงเมาหนักและคงจะโดนข่ม จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปหานาย ก.  ผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้นาย ข. มือฟันได้หนีไปแล้ว

ขณะที่หนึ่งในเพื่อนคนงานเลี้ยงเป็ด กล่าวว่า เมื่อคืนมีผู้หญิง 2 คนมาหานาย ก. และนาย ข. จริง โดยถือเหล้าขาวมาด้วย ตอนแรกก็นั่งกินกันปกติดี แต่พอค่ำตนเดินกลับเข้ามาที่พักได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวาย เห็นนาย ก. วิ่งร้องโอดโอยออกไปที่ถนน

ส่วนนาย ข. ก็เดินเข้ามากอดตน บอกลาและบอกว่าได้ฟันนาย ก. เข้าไปแล้ว ส่วนเรื่องของลับนั้น ทั้งสองก็คุยกันปกติในวงเหล้า แต่รอบนี้ไม่รู้ทำไมถึงมาติดใจว่าขนาดของใครนั้นใหญ่กว่ากัน

ขณะที่ เจ้าของร้านขายของชำ กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา หนึ่งในคนงานได้เดินมาซื้อเหล้าขาว 40 ดีกรีที่ร้านของตน 1 ขวด ก่อนจะเดินกลับไป

พอตกดึกผู้บาดเจ็บก็วิ่งมาตามถนน ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ หัวและตัวเปียกโชกไปด้วยเลือด โดยนาย ก. บอกเพียงว่า โดนคนงานในวงเหล้าฟันมา เพิ่งจะมารู้จากข่าวเมื่อเช้าว่าที่แท้ทะเลาะกันเรื่องของลับใครใหญ่กว่ากัน

นายนิคม บริสุทธิ์ อายุ 53 ปี ส.อบต.คลองหลวงแพ่ง กล่าวว่า เมื่อคืนหลังรับแจ้งเรื่องก็เดินทางมาที่ร้านขายของ พบเห็นนาย ก. อยู่ในอาการเสียเลือดมาก จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งเข้ามาให้การช่วยเหลือ

ซึ่งหลังจากนี้จะประสานคุยกับนายจ้างของทั้งสองคนว่าจะเจรจาไกล่เกลี่ยกันอย่างไร หรือถ้านาย ก.  ผู้บาดเจ็บ ประสงค์จะเอาเรื่อง แจ้งความก็จะพาไปหลังจากที่นาย ก.  ออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว