เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีชายยืนร้องไห้ที่บริเวณสะพานต่างระดับ 4 แยกบายพาสสกลนคร ฝั่งขาออก หลังรับแจ้งจึงนำกำลังสายตรวจ 191 และผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานเขตงานเมืองทอง รีบไปตรวจสอบ เบื้องต้นมีพลเมืองดีจำนวนหลายคนได้จอดรถเพื่อเกลี้ยกล่อมชายคนดังกล่าว
ที่เกิดเหตุพบชายคนหนึ่ง พิการต้นแขนซ้ายขาด ในมือข้างขวาถือโทรศัพท์ รูปถ่ายแฟนสาว และกระดาษเขียนข้อความของแฟนสาว ที่เขียนให้กำลังใจ โดยชายคนดังกล่าวยืนร้องไห้ฟูมฟาย ระหว่างเจ้าหน้าที่ช่วยเจรจรา จนพอมีจังหวะ เจ้าหน้าที่จึงเข้าชาร์จตัวด้วยความรวดเร็ว
จากนั้นตำรวจสายตรวจ 191 ได้ตามเข้ามาช่วยเหลือ ชายคนดังกล่าวได้ร้องไห้ระบายความในใจ บอกเจ้าหน้าที่ว่า ไม่เหลือใครแล้ว อยากให้มีคนกอดตนหน่อย ขอให้ใครสักคนกอดตนได้หรือไม่ เพราะตอนเย็นแฟนสาวยังกอดตนและบอกรักตนอยู่เลย ตำรวจจึงเข้าไปกอดปลอบใจ และพูดให้กำลังใจ เมื่อชายคนดังกล่าวใจเย็นลงแล้ว ตำรวจจึงนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก
เมื่อไปถึงโรงพักชายคนดังกล่าว ได้โชว์กระดาษข้อความของแฟนสาวระบุว่า “ไปขอเขาให้ได้นะ สู้ๆนะอ้วน เขาขัดพ่อไม่ได้จริงๆ แต่เขาจะรออ้วนนะ ห้ามมีคนอื่นละ ห้ามใครมายุ่งที่นอนเขาด้วย” ส่วนรูปถ่ายมีข้อความระบุว่า “ของขวัญวันเกิดล่วงหน้านะอ้วน รักอ้วนนะ เราก็ผ่านอะไรกันมาเยอะ สู้มาขนาดนี้แล้วอย่าท้อนะ สร้างเนื้อสร้างตัวแล้วให้มั่นคงเมื่อไหร่ ก็ไปขอพ่อแม่นะอ้วน เขาจำเป็นต้องกลับไปทำหน้าที่ลูกให้แม่ภูมิใจ พ่อเองก็เป็นห่วงเขาหลายเรื่อง ฝากดูแมวด้วยนะ อย่าลืมดูแลตัวเองนะ รักนะ ถ้าผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ อ้วนตั้งใจเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัว แล้วค่อยกลับไปรับเขานะ เขาไม่ทิ้งเธอแต่ต้องไป”
ชายคนดังกล่าว ร้องไห้สะอึกสะอื้นและเล่าว่า แฟนสาวอายุเท่ากัน คบกันตั้งแต่สมัยแฟนสาวเรียนปริญญาตรีประมาณ 10 กว่าปีแล้ว ตอนที่ตนอายุประมาณ 22 ปี ตนทำอาชีพเป็นเซลล์ขายของ แล้วเกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนขอบสะพานจนแขนซ้ายขาด และพิการมาตั้งแต่ตอนนั้น หลังจากนั้นก็ได้เงินเยียวยามาประมาณ 700,000 บาท หลังจากหายดีก็กลับมาสร้างบ้านอยู่ที่ อ.บ้านผือ และแฟนก็มาอยู่ด้วย เมื่ออยู่ได้สักพักก็พาแฟนสาวแยกครอบครัวมาหาค้าขายอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี ซึ่งได้ขายบ้านมาเป็นเงินทุนประมาณ 700,000 บาทเช่นกัน
จากนั้นก็ค้าขายเรื่อยมา ซื้อรถจักรยานยนต์พ่วงขายลูกชิ้นทอดและขับไรเดอร์ส่งอาหารหาเงินจุนเจือครอบครัว สักพักก็มีปัญหาเรื่องเงิน เนื่องจากแฟนสาวบอกว่าต้องการซื้อที่ดินมรดกคืนจากญาติ ตนก็ให้เงินไปซื้อ 80,000บาท รวมทั้งดาวน์รถจักรยานยนต์ให้แฟนสาว ราคา 60,000 บาท และต้องผ่อนบ้านหลังใหม่ที่ ต.สามพร้าว เดือนละ 6,000 บาท รวมแล้วมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน ที่มีปัญหาที่สุดคือ อาของแฟนสาวขอยืมเงินไปหลายครั้งรวมแล้วเกือบ 80,000 บาท ทยอยใช้อยู่แต่ยังไม่ครบ จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว รถขายลูกชิ้นถูกรถกระบะชน ตนไม่มีเงินซ่อม จึงไม่มีรายได้ส่วนนี้
ชายคนดังกล่าว เล่าอีกว่า เมื่อมีปัญหาเรื่องเงิน ตนจึงไปกู้เงินนอกระบบเกือบ 100,000 บาท ต้องจ่ายรายวันประมาณ 4,900 บาท เมื่อหาทางออกไม่ได้ จึงโทรไปขอความช่วยเหลือครอบครัวแฟนสาว แต่ครอบครัวเขาก็ลำบาก แต่ก็บอกว่าจะหาทางช่วย โดยพ่อตาบอกว่าให้เวลา 3 เดือน ถ้าไม่ดีขึ้นให้แฟนสาวกลับไปทำงานประจำที่บ้าน กระทั่งแฟนสาวได้เก็บเสื้อผ้ากลับไปที่บ้านพร้อมกับน้องสาวที่มาอยู่ด้วย ตนก็เห็นจดหมายและรูปถ่ายพร้อมข้อความ จึงเกิดความน้อยใจ
ด้าน ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เขตงานเมืองทอง เล่าว่า เมื่อมาถึงชายคนดังกล่าว ได้ยืนร้องไห้เสียใจที่แฟนเก็บเสื้อผ้าหนีไป พร้อมกับตะโกนบอกว่าอย่าเข้ามาใกล้ ตนจึงพูดจาเกลี้ยกล่อมให้เขาใจเย็นลง แล้วเข้าชาร์จตัวตามยุทธวิธีที่ฝึกมา เนื่องจากพลเมืองดีบอกว่าชายคนนี้ยืนอยู่จุดนี้นานกว่า 1 ชม.แล้ว คาดว่าเขาคงเสียใจ เนื่องจากแฟนสาวหนีไป อยากฝากถึงทุกคนว่า คิดให้ดี เพราะยังมีอนาคตอีกยาวไกล
เบื้องต้นตำรวจได้ประสานญาติและเพื่อนที่รู้จัก มาพูดคุยกับชายคนดังกล่าว เพื่อให้อารมณ์เย็นลง ก่อนที่จะทำการบันทึกประวัติชายคนดังกล่าวเอาไว้ และแนะนำญาติให้ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก