รายการโหนกระแสวันนี้ เปิดประเด็นพูดคุยกับ อาจารย์จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา และ ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ถึงกรณีเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ ที่ลาสิกขาอย่างกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ ที่จังหวัดหนองคาย ก่อนเดินทางออกนอกประเทศไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นำไปสู่การสอบสวนถึงความผิดปกติทั้งเรื่องเงินวัด และกรณีถูกแบล็กเมล์โดยสีกา
ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่า เจ้าคุณอาชว์มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสีกาคนหนึ่ง วัย 35 ปี ตั้งแต่ปี 2565 โดยทั้งคู่มีการนัดพบกันตามโรงแรมหลายครั้ง กระทั่งช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังเกิดข่าวกรณีทิดแย้ม เจ้าคุณอาชว์เริ่มตีตัวออกห่างจากสีกาเพราะเกรงว่าเรื่องจะถูกเปิดโปง สีกาไม่พอใจ จึงกุเรื่องว่าตั้งครรภ์เพื่อข่มขู่เรียกเงิน 7.68 ล้านบาท แต่เจ้าคุณอาชว์ทราบภายหลังว่าสีกาไม่ได้ตั้งครรภ์จริง จึงปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน ทำให้สีกานำคลิปวิดีโอและแชตสนทนาที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปเปิดเผย เพื่อกดดันให้เจ้าคุณอาชว์ยอมจ่ายเงิน สุดท้ายคาดว่าเหตุการณ์นี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าคุณอาชว์ตัดสินใจลาสิกขา
อาจารย์จตุรงค์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สีกาคู่กรณีของทิดอาชว์ เป็นคนเดียวกับที่มีข่าวความสัมพันธ์กับเจ้าคณะจังหวัดแห่งหนึ่ง และยังเป็นคนเดียวกับที่พระอาจารย์พยอมเคยพูดถึงว่าทำให้พระสึกมาแล้ว 2 รูป เชื่อว่าน่าจะมีมากกว่านั้น โดยพฤติการณ์ของหญิงสาวรายนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า มีพฤติกรรมล่าแต้มพระชั้นปกครองที่มีฐานะดี และที่มีข่าวว่าเป็นไฮโซก็ต้องตั้งคำถามว่า นำเงินจากที่ไหนมาใช้ชีวิตหรูหรา ซึ่งสุดท้ายก็คือเงินจากพระทั้งนั้น
ด้าน ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้ถือเป็นกรณี “นารีพิฆาต” ซึ่งที่ผ่านมา มีผู้พูดเตือนเรื่องนี้อยู่สองคน คือ รองบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ที่มักบรรยายเตือนพระเสมอว่า ต้องระวังการใช้โทรศัพท์มือถือ เพราะปัจจุบันมีกลุ่มนารีพิฆาต ที่ตีสนิทพระ แล้วล่อให้พระทำผิดพระธรรมวินัย โดยมีการอัดคลิปหรือบันทึกเสียงในลักษณะล่อแหลม เพื่อนำไปข่มขู่เรียกเงิน ซึ่งถึงแม้จะจ่ายเงินไปแล้วก็ไม่จบ โดยทางมูลนิธิกองทัพธรรมเคยได้รับแจ้งพระที่ประสบเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายราย