เมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.มงคล โท้เป๋า ผกก. สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเด็กหญิง วัย 14 ปี ถูกหลอกมาหารายได้โดยการมาให้เป็นแดนซ์เซอร์ นั่งรอขอความช่วยเหลืออยู่บริเวณท่ารถตู้ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์เข้าทำการตรวจสอบ
จุดที่รับแจ้งอยู่บริเวณท่ารถตู้ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ พบเด็กหญิงคนดังกล่าว มีกระเป๋าเสื้อผ้าเป็นกระสอบ พร้อมทั้งถุงหิ้วที่ใส่ชุดและรองเท้า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบถามจนทราบชื่อ-สกุล ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ต.ห้วยสะแก อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ก่อนพาเด็กหญิงไปที่ สภ.ศรีมหาโพธิ เพื่อทำการสอบถามและให้การช่วยเหลือเพิ่มเติม
พ.ต.อ.มงคล กล่าวว่า หากเกิดเรื่องถูกหลอกมาแบบนี้ สิ่งที่ควรจะคำนึงและคิดถึงมากที่สุดก็คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือตลอด ไม่ต้องเกรงใจ เพราะหากช่วยเหลือไม่ทัน อาจจะกลายเป็นคดีร้ายแรง
เบื้องต้นทราบว่า เด็กหญิงเดินทางมาจากพื้นที่รังสิต โดยนั่งรถตู้โดยสารมาลงที่จุดจอดรถหน้าห้างแห่งหนึ่งในตัวจังหวัดปราจีนบุรี ก่อนต่อรถมาลงในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดจอดรถจุดแรกกว่า 30 กิโลเมตร

ด.ญ. เล่าว่า ปกติตนพักอาศัยอยู่ในพื้นที่รังสิต ผู้ที่ติดต่องานให้ตนเดินทางมาเป็นแดนเซอร์ บอกกับตนว่าทางคณะแดนเซอร์ของผู้จ้างวานขาดคนเต้น แต่ตนไม่มีเบอร์และไม่มีที่อยู่ของคนที่ติดต่องาน ทราบเพียงชื่อเล่น
พ.ต.อ.มงคล ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเพื่มเติมว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเด็กหญิงวัย 14 ปี นั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ มีกระเป๋าใบใหญ่วางไว้อยู่บริเวณด้านข้าง มานั่งอยู่บริเวณนั้นตั้งแต่ช่วงประมาณ 20.30 น. ของคืนวันที่ 20 ก.พ.
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปทำการตรวจสอบ ก็ไม่สามารถที่จะติดต่อผู้ติดต่องานได้ จึงพาเด็กหญิงมาทำการสอบถามเพิ่มเติมที่โรงพัก และได้ทำการติดต่อผู้ปกครองของเด็ก แต่ด้วยผู้ปกครองเดินทางไปต่างประเทศ จึงไม่สามารถที่จะติดต่อได้
หลังจากทราบเรื่องดังกล่าวและทำการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่าเด็กพักอาศัยอยู่ในพื้นที่รังสิต จึงได้มอบเงินบางส่วน พร้อมทั้งขอเบอร์โทรติดต่อไว้ ก่อนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจรถยนต์พาไปส่งขึ้นรถตู้ เพื่อกลับไปหาญาติในพื้นที่รังสิตต่อไป
อยากจะฝากถึงผู้ปกครองที่มีที่มีบุตรหลานที่ยังเยาว์วัย โดยเฉพาะเด็กหญิง อย่าให้เดินทางไปไหนมาไหนโดยลำพัง เคสนี้ถือว่าโชคดีที่ไม่เกิดอันตราย และไปพบกับพลเมืองดี ช่วยแจ้งตำรวจตรวจสอบและส่งกลับบ้านพักได้
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบเงินค่าเดินทางให้กับเด็กหญิง จำนวน 1,500 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในระหว่างเดินทาง ก่อนที่จะให้เด็กหญิงเก็บสัมภาระขึ้นรถยนต์สายตรว พาไปส่งขึ้นรถตู้สายปราจีนบุรี-รังสิต และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอเบอร์โทรผู้ปกครอง พร้อมทั้งเบอร์ของเด็กหญิงไว้ติดตาม ว่าทางเด็กหญิงเดินทางถึงบ้านพักโดยปลอดภัยหรือไม่ โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าทำการตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย
