ขุนแผนช้ำรัก! ควงปืนง้อเมียหลวง หลังกิ๊กทั้ง 52 คนทิ้ง

สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุผัวเมา ถือปืนไปง้อเมียที่แยกทางกันมาประมาณ 3-4 ปี แต่เมียไม่ยอมคืนดี เกรงว่าจะได้รับอันตราย เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ต.หนองนาคำ พบหญิง อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน ชี้ว่าอดีตสามี อายุ 62 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่แยกทางกันแล้ว 3-4 ปี เพราะว่าอดีตสามีเป็นคนเจ้าชู้ มีเมียน้อยจำนวนมาก อดีตสามีไปอยู่บ้านอีกหลังที่บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ แต่ไม่ได้จดทะเบียนหย่า ส่วนตนอยู่บ้านหลังนี้กับลูก วันเกิดเหตุอดีตสามีเมาแล้วถือปืนมาขู่จะขอคืนดี จะกลับมาอยู่บ้านด้วย แต่ตนไม่ยอม อดีตสามีได้เอาปืนออกมาขู่ ตนจึงแจ้งตำรวจ

ตอนอดีตสามีออกไปอยู่กับเมียใหม่ก็ขอโอกาส 4 ปี เกษียณจะกลับมาขออยู่ด้วย และอดีตสามีก็กลับมาจริงๆ แต่ตนให้โอกาสทดลองอยู่ก่อน 3 เดือน แต่มีเงื่อนไขว่าต่างคนต่างอยู่ มีข้อแม้ว่า ไม่ทำอาหารให้กิน ถ้าหิวให้ไปหาทำกินเอง ไม่ซักผ้าให้ อดีตสามีก็อยู่ได้แค่ 3 วันแล้วหนีไป 3-4 วันก็กลับมาเมาอาละวาด อ้างว่าบ้านกู เวลาตนออกไปดูหมอลำกับลูกหลาน ไม่ได้ไปกับชู้หรือผู้ชายตามที่ถูกกล่าวหา พอกลับมาบ้านก็โดนด่าว่า ถ้าไม่อยากอยู่บ้านก็จะเอาไฟเผา เมื่อทำตามข้อตกลงไม่ได้ก็ต่างคนต่างอยู่ หรือหากจะหย่าก็พร้อมที่จะหย่าแต่ตนจะอยู่บ้านสองหลังนี้

วันเกิดเหตุตนไปทำบุญทอดกฐินที่วัด กลับมาก็พบอดีตสามีเมา นอนอยู่นอกบ้าน จึงถามว่าทำไมมานอนที่นี่ ใครพามา พูดแค่นี้ก็โวยวายอาละวาด ตนก็เลยหนีเข้าไปอยู่ในบ้านเพราะกลัว ยืนยันจะไม่คืนดี เพราะมาทุกครั้งจะโวยวาย หาว่ามีชู้ ทั้งที่ตัวอดีตสามีทิ้งเมียกับลูกไปอยู่กับเมียน้อยนาน 4 ปี แบบนี้เหรอที่จะมาคืนดี

ด้านอดีตสามียอมรับว่า ตนไปดื่มเหล้าในงานบุญ จึงมีอาการมึนเมา ยอมรับว่าเป็นคนเจ้าชู้ ไม่ได้มีเมียน้อย แต่ตนมีแค่กิ๊ก เทศบาลนครอุดรธานีมี 52 ชุมชน ตนก็มีกิ๊กทั้ง 52 ชุมชน ถ้ามี 100 ชุมชน ตนก็จะมีกิ๊ก 100 คน แต่ตอนนี้เลิกไปหมดแล้ว ล่าสุดตนขอแยกทางกับเมียไปอยู่กับกิ๊ก 4 ปี และวันนี้จะขอกลับมาอยู่กับครอบครัว อยู่กับลูกกับเมีย แต่เมียไม่ยอมคืนดี เขาให้ตนไปนอนอยู่ริมถนน เขาบอกว่าจะเอาตนกลับคืนมาทำไม เขาพูดเหมือนตนเป็นหมา ตนเห็นปืนวางอยู่ไม่รู้ว่าปืนใคร จึงถือปืนมาขู่เมียเท่านั้น ไม่ได้ยิงหรือทำร้าย

ตำรวจจึงแจ้งข้อหาอดีตสามี เมาเหล้าประพฤติตนวุ่นวาย ควบคุมตัวและอาวุธปืนสั้นไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ส่วนอาวุธปืนสั้นตำรวจจะได้ตรวจสอบว่ายังใช้การได้หรือไม่ เพื่อให้พนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินการต่อไป