กำลังเป็นประเด็นทั้งในสังคมและโลกออนไลน์ สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการขับแท็กซี่ ที่รวมตัวกันเรียกร้องให้รัฐแก้ไขปัญหา กรณีที่อนุญาตให้รถรับจ้างผ่าแอปฯ มีการตั้งจุดรับ-ส่งผู้โดยสารในสนามบิน โดยกลุ่มแท็กซี่มองว่าตนเองนั้นเสียเปรียบ เนื่องจากรถรับจ้างผ่านแอปฯ มีจำนวนมากกว่า
ในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า เป็นสิทธิ์ของลูกค้าว่าต้องการใช้บริการกับใคร อีกทั้งยังชี้ปัญหาของการใช้บริการแท็กซี่ เช่น ไม่กดมิเตอร์ ไม่ไป รถไม่สะอาด คนขับไม่สุภาพ ฯลฯ
ด้านแท็กซี่ก็ออกมาโต้แย้งว่า บางครั้งที่ไม่รับ ไม่ไป เพราะเป็นการบริหารต้นทุน แต่ขอท้าได้เลยว่าการเรียกผ่านแอปฯ นั้นราคาแพงกว่าแท็กซี่ปกติแน่นอน ทั้งยังมีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นคนขับแท็กซี่ โพสต์เชิงเหน็บแนมว่า คนฉลาดโบกแท็กซี่ ไปได้เลยไม่ต้องรอ ส่วนคนไม่ฉลาดเรียกรถผ่านแอปฯ ต้องยืนรอ และยังเสี่ยงโดนยกเลิกด้วย ทำให้กลายเป็นดรามาบานปลาย
ล่าสุด อินฟลูเอ็นเซอร์สาวคนหนึ่ง ได้ทำคอนเทนต์ทดลองโบกรถแท็กซี่ โดยทำทีเป็นชาวต่างชาติ จากจุดต้นทาง จะไปสยาม ระยะทางประมาณ 10 กม. ปรากฏว่า แท็กซี่หลายคันไม่ยอมกดมิเตอร์ คิดในราคาเหมาตั้งแต่ 200 บาท, 300 บาท และบางคันเรียกสูงถึง 700 บาท แม้อินฟลูฯ คนดังกล่าวจะพยายามพูดถึงการกดมิเตอร์ แต่คนขับแท็กซี่ก็ปฏิเสธ
คลิปดังกล่าวมีคนเข้าไปคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก โดยส่วนใหญ่บอกว่า ที่ไม่อยากใช้บริการแท็กซี่ก็เพราะแบบนี้ บางคนชอบฉวยโอกาส จึงเรียกผ่านแอปฯ เพราะสบายใจและชัดเจนกว่า ทั้งยังแชร์ประสบการณ์ที่เคยโดนโขกราคา แม้จะเป็นคนไทยก็โดนเช่นกัน โดยเฉพาะช่วงฝนตก หรือช่วงเวลาเร่งด่วน
ในขณะเดียวกันก็มีบางคนที่มองว่า แม้จะคิดราคาเหมา แต่เขาไม่ได้บังคับ ถือเป็นการพูดคุยตกลงราคากันก่อน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ตกลง ก็แค่ไม่ต้องไป และเรียกคันใหม่เท่านั้นเอง