นายเอ (นามสมติ) อายุ 54 ปี LGBTQ+ ชาว ต.เกาะเทโพ อ.เมือง จ.อุทัยธานี เล่าเรื่องราวช้ำรักของตัวเองให้ฟังว่า รู้จักกับหนุ่มใต้คนหนึ่ง ซึ่งอยู่ที่ ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ผ่านทางเฟซบุ๊ก จากนั้นก็แชตคุยกันแล้วเกิดถูกใจที่จะคบหากันในฐานะแฟนอย่างเปิดเผย ไปเที่ยวและไปกินข้าวด้วยกัน มีความสุขมากตลอดระยะเวลา 1 เดือนกว่า
จากนั้นหนุ่มใต้ก็ได้กลับบ้านไป กลับมาหาอีกทีเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา บอกว่าได้ซื้อเค้กชื่อดังจากเมืองตรังมาฝาก แล้วก็มีผู้หญิง 1 คน มาด้วย โดยอ้างว่าเป็นน้องสาว แต่ตนมองพฤติกรรมแล้วน่าจะเป็นแฟนกันมากกว่า จึงถามไปตรงๆ ด้วยความหึงหวงจึงเกิดการโต้เถียงกัน หนุ่มใต้พูดว่า “มึงอยากไล่กูมานานแล้วใช่หรือเปล่า” แล้วก็คว้าผ้าขาวม้ามารัดคอตนจนเป็นรอย จากนั้นทั้งสองก็ช่วยกันจับตนอ้าปาก กรอกยาเบื่อหนู บังคับให้กลืน และยังนำเงินสดที่อยู่ในกระเป๋าไป จำนวน 15,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ สีเทา ทะเบียน กต2301 อุทัยธานี ขับหนีหายไปอย่างรวดเร็ว ไร้ร่องรอยจนถึงทุกวันนี้
ส่วนเค้กที่ยังเก็บไว้นั้น ตนไม่ได้เอาไว้ดูต่างหน้าหรืออย่างไร แต่เชื่อว่าน่าจะวางยาพิษ จึงเก็บเอาไว้เผื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจประกอบหลักฐานนั่นเอง
โดยหลังจากที่ถูกวางยาแล้วก็เดินโซซัดโซเซไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้แจ้งความ และช่วยตามรถพยาบาล เพราะยาไปเริ่มออกฤทธิ์จนแทบไม่ได้สติ มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ รพ.อุทัยธานี แพทย์ทำการล้างท้องให้จนอาการปลอดภัย โดยแพทย์บอกว่าที่ถูกกรอกเข้าไปก็คือยาเบื่อหนู เป็นผง หากล้างทองไม่ทันก็คงเสียชีวิตอย่างแน่นอน
ด้านเพื่อนบ้านนายเอ เปิดเผยถึงวันที่เกิดเหตุว่า นายเอเดินมาเคาะประตูและขอความช่วยเหลือด้วยเสียงอันแผ่วเบา คล้ายคนหมดแรงหรือจะตายให้ได้ พอตนเปิดประตูมาก็เจอนายเอ บอกช่วยโทรแจ้งตำรวจและเรียกรถพยาบาล โดยกล้องวงจรปิดบ้านตนยังจับภาพขณะที่ผู้ก่อเหตุขับรถเก๋งของนายเอผ่านหน้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว
เพื่อนบ้านอีกคน เล่าว่า ตอนแรกตนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มารู้ทีหลังว่านายเอนั้นถูกกรอกยาและถูกขโมยรถยนต์ไป แต่ก่อนเกิดเหตุตนเห็นผู้หญิง อายุ 30 โดยประมาณ ยืนอยู่ข้างบ้านนายเอเหมือนจะดูต้นทางและท่าทางมีพิรุธ แต่ตอนเกิดเหตุก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยเพราะปิดบ้านอยู่
นายเอ ผู้เสียหาย เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวให้ช่วยนำเสนอเรื่องราวของตัวเองที่ถูกกระทำ และขอให้ตำรวจเร่งรัดดำเนินคดีโดยเร็ว หากเป็นไปได้อยากให้ตำรวจแจ้งข้อหาหนักก็คือพยายามฆ่าเลยด้วยซ้ำ แถมยังขโมยทั้งรถยนต์และเงินสดไปอีก
ล่าสุดทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุทัยธานี ได้ทำการค้นหาที่อยู่และบ้านเกิดของผู้ก่อเหตุและผู้หญิงที่มาร่วมก่อเหตุด้วย ได้โทรศัพท์ไปหาแม่ของผู้ก่อเหตุ แต่ทางแม่บอกว่าไม่มีส่วนรู้เห็น และยังไม่เห็นลูกชายกลับมาที่ จ.ตรัง เลย