“โอ๊ต บางแพ” ประกาศลั่น ถ้าพิสูจน์ได้ว่า เหรียญหลวงปู่ทวดทองคำ ของ “บอย ท่าพระจันทร์” มาจากตัวตัดเดียวกับเนื้ออัลปาก้าปี 08 จริง ตนจะเลิกเล่นพระ ยกกล้องให้ อ.รักษ์ด้วย

รายการโหนกระแสวันนี้ เปิดเวทีให้สองเซียนพระชื่อดัง "บอย ท่าพระจันทร์" และ "โอ๊ต บางแพ" ได้ยุติข้อพิพาทที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงที่สุดในวงการพระเครื่อง กรณีการตรวจสอบความแท้ของ "เหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2508 เนื้อทองคำ" หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้โต้เถียงกันอย่างดุเดือดผ่านโซเชียลมีเดีย 

ในรายการโหนกระแส โอ๊ต บางแพ ได้โต้แย้งประเด็นของ บอย ท่าพระจันทร์ อย่างดุเดือด โดยเริ่มต้นจากการตั้งข้อสงสัยพื้นฐานเกี่ยวกับช่วงเวลาในการจัดสร้างเหรียญทองคำที่เป็นประเด็น โดยกล่าวว่าตนเองไม่เชื่อว่าเหรียญทองคำบล็อกไม่ผ่าปากที่บอย ท่าพระจันทร์ได้มานั้น จะเป็นเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2508 หรือแม้กระทั่งถูกสร้างทันในช่วงก่อนที่พระครูวิสัยโศภณ (ทิม ธมฺมธโร) จะมรณภาพในปี พ.ศ. 2512 ซึ่งโอ๊ตยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะตามข้อมูลมาตรฐานที่วงการพระเครื่องยึดถือกันมาตลอดหลายสิบปี เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 08 ที่เป็นเนื้อโลหะมีค่าอย่างเนื้อทองคำและเนื้อเงิน จะต้องเป็น "บล็อกผ่าปาก" เท่านั้น การปรากฏตัวของเหรียญเนื้อทองคำที่เป็น "บล็อกไม่ผ่าปาก" จึงเป็นการทำลายมาตรฐานและความเชื่อดั้งเดิมของวงการ

โอ๊ต บางแพ ได้อธิบายเพื่อแสดงภูมิความรู้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญว่า ลักษณะทางกายภาพของเหรียญที่เซียนพระใช้เป็นจุดพิจารณานั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร โดยให้ข้อมูลว่า "เส้นบากผ่าปาก" ที่ปรากฏบนเหรียญหลวงปู่ทวดนั้น ไม่ใช่ตำหนิที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดจากความตั้งใจของช่างแกะแม่พิมพ์ในสมัยนั้น ที่ใช้วิธี "ตีสเกลเส้นตั้ง เส้นนอน" หรือการขีดเส้นตารางบนแม่พิมพ์เพื่อกำหนดสัดส่วนและตำแหน่งของใบหน้าหลวงปู่ทวดให้มีความสมดุลและงดงาม ส่วน "รอยวงเดือน" หรือเส้นรัศมีบางๆ ที่ปรากฏบนพื้นผิวเหรียญนั้น เกิดขึ้นจากขั้นตอนการกลึงเหล็กเพื่อทำบล็อกแม่พิมพ์ในสมัยโบราณ ซึ่งยังไม่มีเทคโนโลยีที่จะลบร่องรอยการกลึงนี้ออกไปได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งในตำหนิสำคัญที่ใช้พิจารณาความแท้ของเหรียญที่สร้างจากบล็อกนั้นๆ

จากนั้น โอ๊ตได้นำเสนอแนวคิดที่ท้าทายวิธีการพิสูจน์พระในปัจจุบัน โดยชี้ว่าวงการกำลังพึ่งพาวิธีการให้เซียนพระหลายๆ คนมาช่วยกันดู ซึ่งเซียนพระก็คือมนุษย์และมีโอกาสที่จะตัดสินใจผิดพลาดได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ร่องรอยการตัดที่ขอบเหรียญ หรือ "ตัวตัด" มาเป็นเครื่องมือตัดสินชี้ขาดนั้น ไม่สามารถใช้เป็นข้อยุติได้เสมอไป โอ๊ตให้เหตุผลว่า ในทางปฏิบัติแล้ว รอยตัดขอบที่ดูเหมือนกันอาจเกิดขึ้นได้จากตัวตัดคนละตัว และเคยมีกรณีที่เหรียญมีรอยตัดขอบเหมือนกัน แต่เมื่อนำมาวัดขนาดกลับพบว่าเหรียญมีขนาดไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่ารอยตัดที่เหมือนกันนั้น อาจไม่ได้มาจากตัวตัดเดียวกันเสมอไป และอาจเป็นสิ่งที่ของปลอมเลียนแบบขึ้นมาได้

ท้ายที่สุด โอ๊ต บางแพ ได้แสดงจุดยืนของตนเองอย่างชัดเจนและหนักแน่น โดยยืนยันว่า เหรียญหลวงปู่ทวด ปี 08 บล็อกไม่ผ่าปากนั้น มี "ตัวตัด" ที่วงการยอมรับอยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น คือตัวตัดที่ใช้กับเหรียญเนื้ออัลปาก้า พร้อมกับ "ฟันธง" ในรายการเลยว่า เหรียญทองคำของบอย ท่าพระจันทร์ เป็นคนละตัวตัดกับเหรียญรุ่นปี 08 ที่เป็นมาตรฐานอย่างแน่นอน และเพื่อแสดงความมั่นใจในจุดยืนของตนเอง โอ๊ตได้ประกาศท้าทายกลางรายการว่า หากมีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนออกมาว่าเหรียญทองคำของบอยมาจากตัวตัดเดียวกันกับเหรียญเนื้ออัลปาก้าจริง ตนจะขอยกกล้องส่องพระคู่กายให้กับ อ.รักษ์ ศรีเกตุ และจะขอ "เลิกเล่นพระ" ทันที ซึ่งถือเป็นการเดิมพันด้วยอาชีพและเกียรติภูมิทั้งหมดของตนเอง