หญิง อายุ 52 ปี ได้เดินทางมาพบ พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รอง ผกก. สภ.คลองหลวง หลังถูกชายที่คบหากัน นามสมมติ นายเอก ซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหลอกเอาเงินและทรัพย์สินไปกว่า 3 ล้านบาท
ผู้เสียหาย เล่าว่า รู้จักกับนายเอกเพราะตนเองถูกแฟนเก่าคุกคาม จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.คลองหลวง จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปหาตนที่บ้านพัก จำนวน 2 นาย โดยนายเอกเป็น 1 ในนั้น
พอตนถูกแฟนเก่าคุกคามบ่อยๆ นายเอกก็จะไปพบตนแค่คนเดียว ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 นายเอกก็ไปคนเดียวและก็ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ ประมาณว่าถ้ามีอะไรก็ให้ติดต่อเขาโดยตรงเลย
สักระยะหนึ่งเขาก็ขอคบกับตนเป็นแฟน เขาบอกว่าเขาไม่มีใคร เขาเป็นตำรวจ จากนั้นเขาก็บอกให้ตนทำธุรกิจร่วมกัน บางครั้งอ้างว่าจะโยกย้ายเราได้บ้าง อ้างว่าพ่อป่วย แม่ป่วย ตัวเองป่วย ให้ตนโอนเงินให้ และไม่ให้ตนไปพบคนที่บ้านของเขา
มารู้ก็เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ว่าเราไม่เหลืออะไรแล้ว บ้านก็โดนยึด ที่ดินถูกยึดจากการโดนอายัดทรัพย์และยึดทรัพย์เพราะไปออกรถให้เขา หวังทำธุรกิจรีสอร์ต ซึ่งเขาอ้างว่าพี่ชายเขาซื้อรีสอร์ตเอาไว้ และจะไปทำธุรกิจด้วยกันเพื่อครอบครัว
คบกันมาตั้งแต่ปลายปี 2560 ที่คบกันไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน บ้างครั้งเขาก็หายไปประมาณ 6-7 เดือน แล้วก็กลับมา ระหว่างที่เขาหายไปก็มีพี่สะใภ้และพ่อของเขาโทรศัพท์มาหา เพื่อให้เราโอนเงินให้ มีครั้งหนึ่งที่พี่สะใภ้โทรมาบอกกับตนว่านายเอกติดโควิด ให้โอนเงินไปช่วยค่าออกซิเจนทุกวัน วันละ 1,000 บาท เป็นเวลาประมาณ 6 เดือน
เฉพาะเงินสดที่อยู่ในบัญชีก็ประมาณ 1 ล้านกว่าบาท และทรัพย์สินก็ไม่มีอะไรเหลือเลย บ้านก็ไปขายจำนองเพราะเขาบอกว่าจะส่งเอง แต่ก็ไม่ส่ง จนตนโดนไล่ออกจากบ้าน ทรัพย์สินและเงินสดที่ตนเสียไปทั้งหมดประมาณ 3 ล้านกว่าบาท ซึ่งตนก็ยังไม่มั่นใจว่าเขามีครอบครัวแล้วหรือเปล่า เพียงแต่มีคนบอกมา
ด้านนายนรพัลลภ ทองคลัง ทนายความ กล่าวว่า ตนได้พาผู้เสียหายมาแจ้งความ ในส่วนของความผิดที่เกิดขึ้นฐานกระทำตนและแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่ามียศเป็นหมวด และฉ้อโกง เพราะเขามีการชักชวนผู้เสียหายไปทำรีสอร์ตที่ จ.อุบลราชธานี แต่ในการลงทุนดังกล่าวผู้เสียหายไม่ทราบว่าทำจริงหรือไม่ และระยะเวลาที่พูดคุยกันเขาก็จะให้บุคคลภายนอกโทรศัพท์มาหาผู้เสียหาย ผู้เสียหายก็ได้โอนเงินไปให้
และกรณีที่ผู้เสียหายได้ไปออกรถยนต์ให้กับผู้ก่อเหตุ ไฟแนนซ์ได้ยึดคืนไปแล้ว 1 คัน ส่วนอีก 1 คัน ทางไฟแนนท์ก็ฟ้องยึดทรัพย์ผู้เสียหาย ซึ่งทางผู้เสียหายก็ได้บอกให้ผู้ก่อเหตุนำรถมาคืน แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่นำรถมาคืน
ตนคิดว่าทั้งหมดน่าจะเป็นขบวนการของผู้ก่อเหตุเสียมากกว่า เพราะที่บอกว่าแม่เป็นหญิงชรา เมื่อตนไปพบก็เห็นแม่เขายืนผัดข้าวปกติ ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ที่ผู้ก่อเหตุได้นำของผู้เสียหายไป เช่น ทองคำ 8 บาท แต่เหลือ 4 บาท และรถเก๋ง ก็สามารถเรียกคืนได้