มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

ศาลสั่งจำคุกครูฝึกและรุ่นพี่ 13 ราย คดีทำร้ายทหารเกณฑ์ เสียชีวิตในค่าย แม่เตรียมอุทธรณ์เพิ่มโทษ


อาชญากรรม
27 พฤษภาคม 25688,409
ศาลสั่งจำคุกครูฝึกและรุ่นพี่ 13 ราย คดีทำร้ายทหารเกณฑ์ เสียชีวิตในค่าย แม่เตรียมอุทธรณ์เพิ่มโทษ

‘ทนายเกิดผล แก้วเกิด’ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ศาลพิพากษาจำคุกครูฝึกทหารเกณฑ์ 20 ปี

 

จากกรณีที่ ‘พลทหารวรปรัชญ์ หรือน้องเน’ อายุ 18 ปี สมัครใจเข้ารับการเป็นทหารเกณฑ์ ถูกครูฝึก ‘ซ่อมวินัย’ เสียชีวิต หลังเกณฑ์ทหารไม่ถึง 3 เดือน แพทย์ระบุสมองบวม ซี่โครงหัก 2 ข้าง ปอดฉีก ปอดรั่ว ไหปลาร้าหัก กระดูกสันหลังหัก

 

ต่อมา พนักงานอัยการ ได้ยื่นฟ้องครูฝึกและผู้ช่วยครูฝึก รวมทั้งหมด 13 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและป้องกันการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ 2565 มาตรา 5

 

ในวันนี้ (27 พ.ค.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ได้อ่านคำพิพากษา โดยสรุปเนื้อความว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นครูฝึกทหารใหม่ของค่ายนวมินทร์ โดยมีจำเลยที่ 3 ถึง 13 เป็นทหารเกณฑ์และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยครูฝึกทหารเกณฑ์ ร่วมกันทำร้ายผู้เสียชีวิตหลายครั้ง หลายเวลา ต่างกรรมต่างวาระ อย่างทารุณโหดร้าย จนผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา

 

พยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อ เนื่องจากพยานส่วนใหญ่เป็นทหารใหม่และเป็นทหารเกณฑ์ในค่ายนวมินทร์ ที่จำเลยทั้ง 13 สังกัดอยู่ และเห็นเหตุการณ์ซึ่งถือว่าเป็นประจักษ์พยานโดยตลอด หากไม่เป็นความจริง พยานซึ่งเป็นทหารเกณฑ์และเป็นทหารใหม่ก็คงไม่กล้าใส่ความหรือใส่ร้ายป้ายสี ทั้งไม่มีสาเหตุโกรธเครื่องกับจำเลยทั้ง 13 แต่อย่างใด

 

นอกจากนั้น คำให้การของจำเลยทั้ง 13 ก็ยังมีพิรุธสงสัย และมีการต่อสู้โดยปฏิเสธลอยๆ ทั้งๆ ที่ในชั้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาจำเลยทั้ง 13 เรื่องการทำร้ายร่างกายพลทหาร ให้ได้รับอันตรายแก่กาย จำเลยทั้ง 13 ให้การรับสารภาพโดยไม่ให้รายละเอียดใดๆ

 

แต่ต่อมา ภายหลังจากที่พลทหารเสียชีวิต เมื่อพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม เป็นข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย จำเลยทั้ง 13 ก็ให้การปฏิเสธลอยๆ โดยไม่ให้รายละเอียด

 

ในทางพิจารณาคดี พยานหลักฐานของโจทก์และของจำเลยก็รับฟังได้ว่า จำเลยทั้ง 13 ได้มีส่วนร่วมกันกระทำความผิดจริงตามฟ้อง เพียงแต่ต่างคนต่างทำ แต่ระยะเวลาและสถานที่ชัดเจนที่สุดว่าพลทหารเสียชีวิตในเวลาต่อมา เกิดจากการกระทำรุนแรงของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นครูฝึก ได้ใช้ไม้ทำร้ายโดยการทุบตีพลทหารจนถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา

 

ศาลจึงมีคำพิพากษาว่า การกระทำความผิดของจำเลยทั้ง 13 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ 2565 มาตรา 5 และมาตรา 35 วรรค 3 พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 20 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 15 ปี และจำคุกจำเลยที่ 3 ถึง 13 คนละ 10 ปี

 

ในส่วนของพ่อแม่พลทหารที่เสียชีวิตยังติดใจคำพิพากษา เห็นว่าจำเลยที่ 1 ได้รับโทษน้อยเกินกว่าที่กระทำ ควรได้รับโทษมากกว่านี้ และจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อไป ส่วนคดีแพ่ง หลังคัดคำพิพากษาได้แล้ว จะยื่นฟ้องกองทัพบกเป็นจำเลยเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนให้กับพ่อแม่ของน้องตามกฎหมายต่อไป

 

ทหารกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ไม่ได้ขึ้นศาลทหาร ต้องขึ้นศาลพลเรือน และติดคุกพลเรือน อย่าหาทำ ไม่ว่าจะในค่ายหรือในคุกก็ไม่ควรมีการตายฟรี

 

 

ทนายเกิดผล กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีแรกในประเทศไทย หลังประกาศใช้ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ช่วงที่ฟังคำพิพากษา ได้สังเกตเห็นแม่ของผู้เสียชีวิตร้องไห้ตลอดเวลา ส่วนพ่อมีสีหน้านิ่งเฉย

 

ส่วนฝั่งจำเลย ทหารเกณฑ์ที่เป็นครูฝึก ผู้ช่วยครูฝึก น่าจะรู้ชะตากรรมตัวเอง ดูกังวลใจและดูมีสีหน้าเครียด ก้มหน้าตลอดเวลาขณะที่ศาลอ่านคำพิพากษา

 

จากชีวิตลูกชาวบ้านแท้ๆ ต้องมาติดคุกเพราะความคึกคะนอง เสียอนาคต เสียเวลาไป 10 ปี กับสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่ก็เป็นบทเรียนที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับทหารใหม่ที่ชอบใช้กำลังทำร้ายทหารรุ่นน้อง โดยคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ความจริงมันเป็นประเพณีที่ห่วยแตกมาก มันไม่ควรจะต้องทารุณกรรมใครแล้ว

 

ในส่วนของครอบครัวผู้เสียชีวิต พึงพอใจในคำพิพากษาบางส่วน แต่ยังไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาในส่วนของจำเลยที่ 1 (ครูฝึก) มองว่าได้รับโทษน้อยไป เพราะสิ่งที่ครูฝึกกระทำกับลูกของเขามันทารุณโหดร้ายและรุนแรงมาก โดยครอบครัวจะยื่นอุทธรณ์เพื่อให้การลงโทษหนักกว่าเดิม

 

แม่ของทหารเกณฑ์ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มาทำให้คนในครอบครัวเราเสียชีวิต โทษจำคุก 20 ปีนั้นรู้สึกว่าน้อยไป ต้องขอบคุณกฎหมาย พ.ร.บ.อุ้มหายฯ สามารถเรียกร้องความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิตได้ เพราะเป็นเคสทหาร โดยปกติต้องขึ้นศาลทหาร แต่วันนี้มีกฎหมายนี้ออกมาทำให้สามารถเอาคดีออกมาศาลข้างนอกได้ แล้วเป็นศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ มองว่าค่ายทหารจะไม่เป็นแดนสนธยาอีกต่อไป สำหรับการทำร้ายร่างกาย การซ้อมทรมาน หรือการลงโทษทางวินัยที่เกินกว่าเหตุ

 

ที่มา : เรื่องเล่าเช้านี้

 


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#พรบอุ้มหาย#ซ่อมวินัย#ทำร้ายทหารใหม่#ค่ายทหาร#ทหารเกณฑ์