ครูสั่งนักเรียนลุกนั่ง 150 ครั้ง จนกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง นอน รพ. 7 วัน ผอ. แจงครูทำเพราะเคี่ยวเข็ญเรื่องเรียน ได้ไปเยี่ยมเด็กและขอโทษผู้ปกครองแล้ว

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพเด็กนักเรียน อายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.4 พร้อมกับระบุว่า “เหตุการณ์วันนี้ทำแม่เลี้ยงเดี่ยวเครียด และลูกก็เครียด คุณครูจะเครียดด้วยไหม?? เรื่องมีอยู่ว่าลูกทำสมุดรายวิชาหนึ่งหาย ไม่ได้ส่งการบ้าน คุณครูสั่งลงโทษให้ลุกนั่ง 150 ครั้ง ลูกรู้ว่าตัวเองผิดก็ทำตามคำสั่งคุณครู

แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ลูกโทรหาแม่ตอนเที่ยง บอกปวดกล้ามเนื้อขามาก ตอนแรกก็คิดว่าแค่อักเสบพามาหาหมอ ที่ รพ. อาการที่หมอตรวจเจอ กล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง ค่าเลือดผิดปกติสูงมาก ต้องเข้ารักษาเร่งด่วน หมอบอกความรุนแรงอาจทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะจากการลุกนั่ง ทำให้เลือดอาจไปเลี้ยงหัวใจไม่ทัน หรืออาจจะเกิดไตวายเฉียบพลันได้ เกิดมาจากอาการเหนื่อยและเสียเหงื่อ

สภาพตอนนี้นอนพักที่เตียงอย่างเดียว ห้ามลุกจนกว่าผลเลือดจะดีขึ้น คนเป็นแม่งานก็ต้องทำ ลูกก็ต้องดูแล ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันต้องมานอนเฝ้าลูกทั้งที่ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเด็กได้นอนอยู่ รพ. รักษาตัวเป็นเวลา 7 วัน แล้ว และทางโรงเรียนยังไม่มีการเข้าเยี่ยม หรือออกมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด”

ต่อมา ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังแม่เด็กนักเรียนที่ประสบเหตุ ซึ่งทางแม่แจ้งว่ายังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ เนื่องจากติดทำงานอยู่

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าว และทราบข้อมูลมาว่ามีการสั่งไม่ให้แม่เด็กแจ้งความเอาผิดครู ผอ. เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จึงได้บอกให้ครูรีบไปเยี่ยมเด็กที่ รพ. ทันที และให้ติดตามอาการเด็กด้วย พร้อมกับพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ปกครองเด็ก

ส่วนสาเหตุมาจากที่เด็กไม่ได้ส่งการบ้าน ครูผู้สอนจึงได้สั่งทำโทษให้ลุกนั่ง 150 ครั้ง ซึ่งทางครูก็ยอมรับว่าสั่งทำโทษมากเกินไป หลังสั่งทำโทษ วันรุ่งขึ้นเด็กก็มาเรียนตามปกติ แต่วันต่อมาเริ่มมีอาการอักเสบที่ขา ทางผู้ปกครองจึงพาไปหาหมอ และหมอวินิจฉัยว่า ป็นกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรง

ตนได้ไปเยี่ยมเด็กพร้อมกับครูที่สั่งทำโทษเด็ก ซึ่งในวันนั้นครูได้ยกมือไหว้ขอโทษผู้ปกครอง 2 ครั้ง และบอกเหตุผลที่ทำโทษเพื่อต้องการจะเคี่ยวเข็ญเรื่องการเรียน จากนั้นตนได้มอบเงินเยียวยาเบื้องต้น 10,000 บาท แต่ทางผู้ปกครองไม่รับ และบอกว่าขอให้ลูกหายดีก่อน แล้วค่อยมาคุยกันอีกที

ส่วนอาการเด็กตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว แต่ยังต้องฟื้นฟูกล้ามเนื้ออีกซักระยะ และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เรื่องที่เกิดขึ้นตนต้องมาถอดบทเรียนให้กับครูที่คิดจะทำโทษเด็ก ต้องทำด้วยความเหมาะสม และให้เป็นไปตามระเบียบที่วางไว้

ที่มา : ch3