มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

อภิมหากาพย์เชื่อมจิต สำนักพุทธแจ้งความแล้ว ลั่นเขารู้ดีว่าเราดำเนินการอะไร แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ อ.ยิ่งศักดิ์ขอพูด สื่อทำหน้าที่ตั้งคำถาม ผิดตรงไหน


ข่าวด่วน
25 มิถุนายน 2567732
อภิมหากาพย์เชื่อมจิต สำนักพุทธแจ้งความแล้ว ลั่นเขารู้ดีว่าเราดำเนินการอะไร แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ อ.ยิ่งศักดิ์ขอพูด สื่อทำหน้าที่ตั้งคำถาม ผิดตรงไหน

 

รายการโหนกระแสวันนี้ ยังคงพูดคุยกันอีกครั้งกรณีของ “เชื่อมจิต” หลังหลากหลายภาคส่วนออกมาเคลื่อนไหว ดำเนินคดี แจ้งความเอาผิด โดยที่เป็นประเด็นมากที่สุด ก็คือ “สำนักพุทธ” ที่ส่งคณะทำงานไปแจ้งความเอาผิดกลุ่มเชื่อมจิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช และ ดร.ประยุทธ์ ประเทศเสนา จากมูลนิธิกองทัพธรรม เผยถึงกรณีที่ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ส่งนิติกร รวบรวมหลักฐานต่างๆ ไปแจ้งความเอาผิดกลุ่มลัทธิเชื่อมจิต ฐานบิดเบือน นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยเป็นไปตามคำสั่งของ มหาเถรสมาคม ออกระเบียบคำสั่งให้ทางสำนักพุทธไปดำเนินการเอาผิดกลุ่มเชื่อมจิต โดยไปแจ้งไว้ที่ บก.ปอท. ที่เดียวกับที่กองทัพธรรมแจ้งไว้

 

ขณะที่ อี้ แทนคุณ ไปแจ้งความเพิ่ม เอาผิดทนายความ และ ทางกลุ่ม ที่มีการเปิดบัญชีเรียกรับเงินเรี่ยไรต่างๆ นานา  โดยวันนี้ก็ได้นำหลักฐานส่วนนี้มาแจ้งความกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก.ปอศ.) โดยมีหลักฐานชัดเจนที่น่าเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งไม่สามารถอ้างได้ว่ามีการปลอมขึ้น เนื่องจากยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และในคอมเมนต์ใต้โพสต์เรี่ยไรเงิน ยังมีการระบุสลิปโอนเงินจากผู้บริจาค เป็นเงินจำนวน 0.99 บาท บ้าง 2 บาทบ้าง และสูงถึง 500 บาท 

 

ถึงบางยอดจะไม่ได้เยอะมาก แต่ก็ผิด พ.ร.บ.เรี่ยไร และยังมีหลักฐานการเสียภาษีของบริษัท สำนักงานกฎหมายและทนายความ ของทนาย โดยตั้งแต่เป็นทนายมายังไม่มีการเสียภาษีเลย จึงนำหลักฐานส่วนนี้มาให้ทาง ปอศ.ตรวจสอบ

 

ขณะที่ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เผยว่า ตอนนี้ตนถูกกลุ่มเชื่อมจิตแจ้งความไว้ 14 คดี และรอขึ้นศาลอีก 2 คดี ซึ่งทางทนายอนันต์ชัย อี้แทนคุณ อ.รักคำราม ก็โดนคดีกันถ้วนหน้า 

 

ขณะที่ ดร.อธิเทพ ผาทา อาจารย์ประจำหลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาพระไตรปิฎกศึกษา คณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เผยว่า ตนพินิจพิจารณาจากการไลฟ์ของเด็ก 8 ขวบ เวลาที่มีคนถามว่าน้องได้พลังพิเศษเหล่านี้มาจากไหน เด็กจะบอกว่าได้มาจากเบื้องบน มีเรื่ององค์เทพ เชื่อมกับดวงจิตอะไรต่างๆ นานา มีลักษณะบุคลิกท่าทางการพูด ทำเหมือนเป็นคนละคน มีการพูดว่าองค์เทพออกจากร่างเราแล้ว ลักษณะทั้งหลายเหล่านี้ เหมือนทำตัวเป็นร่างทรง ตนพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์เป็นเหมือนร่างทรง ก็พูดไปเช่นนั้น ปรากฏว่าถูกทางครอบครัวเชื่อมจิตไปแจ้งความ ว่าเรากล่าวหาเขาเป็นร่างทรง

ขณะที่ ดร.ประยุทธ์ ประเทศเสนา มองว่า การที่ทุกฝ่ายทุกภาคส่วน ทั้งสำนักพุทธ พม. เครือข่ายประชาชน ออกมาร่วมกันดำเนินคดีกับกลุ่มเชื่อมจิต ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะหากมองในภาพรวมจะรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เอากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามากางดูอย่างละเอียด เพื่อปกป้องหลักธรรมคำสอนพระพุทธศาสนา ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่เกิดปรากฏการณ์แบบนี้ขึ้น

 

ขณะที่ นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ประธานคณะทำงานตรวจสอบกลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร และการกระทำที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบกรณีการแจ้งความเอาผิดกลุ่มเชื่อมจิต โฟนอินเข้ามาเผยว่า ไปแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับกลุ่มดังกล่าว เป็นไปตามมติของมหาเถรสมาคม ด้วยหลักฐานต่างๆที่รวบรวมมาชี้ให้เห็นว่าเป็นความผิดที่นำเข้าข้อมูลอันบิดเบือนเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

 

ส่วนที่ทางกลุ่มเชื่อมจิตออกมาโพสต์ว่า ทางสำนักพุทธมีหนังสือตอบกลับไปหาเขาแล้ว ก็เข้าใจได้ว่าเขาเจตนาจะให้สำนักพุทธตอบกลับอะไรที่ไปผูกมัด ผูกพัน กับการดำเนินคดี แต่ต้องบอกว่าเราตอบกลับแบบเนียนกริบ สิ่งที่เราทำหนังสือตอบกลับไป ถึงเราไม่ตอบ เขาก็หาเอาเองในกูเกิลได้อยู่แล้ว

 

การที่เขาออกมาโพสต์มาอะไรแบบนี้ ส่วนตัวมองว่าทางกลุ่มเขายังไม่มีความเป็นผู้ใหญ่มากพอ เพราะหากใช้วิจารณญาณพิจารณาแล้ว ก็คงไม่ออกมาโพสต์ด้วยถ้อยคำอะไรแบบนี้ เขารู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่าสำนักพุทธต้องการจำดำเนินการอะไรกับเขา แต่แสร้งทำทีเป็นว่าไม่รู้

ขณะที่ นายสรรพสิทธิ์ คุมประพันธ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายและด้านคุ้มครองเด็ก หนึ่งในผู้ร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองเด็กปี 2546 โฟนอินเข้ามากล่าวถึงเรื่องที่ทางครอบครัวไปแจ้งความเอาผิดกลุ่มบุคคล และสื่อต่างๆ อาศัยกฎหมายคุ้มครองเด็ก ต้องบอกว่า มันไม่ได้เข้าองค์ประกอบความผิดเลย ในเมื่อการใช้ความรุนแรงต่อเด็กนั้น มันเป็นการคุ้มครองจากคนในครอบครัว ไม่ใช่บุคคลอื่น และการที่สื่อมวลชน และบุคคลต่างๆ ดำเนินการทางคดีกับทางกลุ่มเชื่อมจิต ก็เป็นเพื่อให้ทางกลุ่มหยุดยั้งพฤติกรรม อันจะก่อให้เกิดความเสียหายกับเด็ก ไม่ได้เป็นการมุ่งร้ายต่อเด็กเลย

 

นอกจากนี้ยังมีการเข้าสายพิธีกรรายการดัง 2 ท่าน อย่างคุณภาคภูมิ รายการเปิดปากกับภาคภูมิ และ อ.ยิ่งศักดิ์ รายการคนดังนั่งเคลียร์ ซึ่งเป็นรายการที่ถูกทางกลุ่มเชื่อมจิตแจ้งความเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งสองคนต่างก็พูดในมุมเดียวกันว่า การนำเสนอเรื่องราว ตั้งคำถาม ในฐานะของการเป็นสื่อมวลชน เป็นสิ่งที่ย่อมทำได้ และที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นการนำเสนอเรื่องราวแต่เพียงด้านเดียว นั่นก็เพราะทางกลุ่มเชื่อมจิตปฏิเสธที่จะมาร่วมชี้แจงในรายการ หากในการตั้งคำถามต่อสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นความผิดของสื่อ ต่อไปนี้สื่อคงไม่มีสิทธิ์ทำหน้าที่อะไรอีกแล้ว