'พระลิน' โต้กลับ เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี ปมขับพ้นเขตปกครองสงฆ์ ลั่นไม่ไปไหน ขอย้ายไปมหานิกายแทน ชี้เตรียมกลับวัดเพราะเจ้าอาวาส-ชาวบ้านไม่ได้ไล่ ยันจัดกฐินเหมือนเดิม
วันที่ 20 ต.ค.2567 คืบหน้ากรณีมีหนังสือด่วน คำสั่งคณะจังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) เรื่อง ให้พระลิน สุจิตโต และ พระบัวลัย เอกคคจิตโต ซึ่งเป็นพระน้องชาย พ้นจากเขตการปกครองคณะสงฆ์จังหวัดอุตรธานี (ธรรมยุต)
โดยในคำสั่งมีข้อความว่า ตามพฤติกรรมที่ปรากฏของ พระลิน สุจิตโต และ พระบัวลัย เอกคคจิตโต จาก สปป.ลาว โดยมีพฤติกรรมมิชอบ ประพฤติตนมิอยู่ในโอวาท และคำสั่งเจ้าคณะผู้ปกครอง ที่สั่งโดยชอบธรรม ดังนี้ 1) ประพฤติตนไม่สำรวมระวังต่อพระธรรมวินัยและธรรมเนียมปฏิบัติแห่งคณะสงฆ์จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) 2) มีพฤติกรรมมอมเมาประชาชนด้วยอวิชชา โดยการเขียนเลขยันต์ ลงตามเนื้อตามตัว อันเป็นการสร้างความหลงผิดต่อหลักพระพุทธศาสนา
3) การไม่สำรวมระวังในการสื่อสารผ่านสื่อโซเชียล ก่อให้เกิดความเสียหายต่อคณะสงฆ์จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) 4) ประพฤติตนมิอยู่ในโอวาทของเจ้าคณะผู้ปกครองและละเมิดคำสั่ง
ซึ่งการกระทำของ พระลิน สุจิตโด และพระบัวลัย เอกคคจิตโต ตามที่ปรากฏข้างต้นนั้นถือเป็นการประพฤติผิดอย่างร้ายแรง ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อเจ้าคณะผู้ปกครอง และปัจจุบันไม่ได้สังกัดวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) จึงสั่งให้ทั้งคู่พ้นจากเขตการปกครองคณะสงฆ์ จังหวัดอุดรธานี (ธรรมยุต) โดยกำหนดเวลาภายใน 7 วัน นับตั้งแต่มีคำสั่งนี้
ล่าสุดพระลิน ออกมาเคลื่อนไหวแล้ว โดยวันนี้ เพจเพจ พระลิน สุจิตโต ได้โพสต์คลิป ระบุข้อความว่า “บททดสอบจิตใจครั้งยิ่งใหญ่” ซึ่งในคลิปพระลิน กล่าวชี้แจงว่า ประเด็นดรามาตอนนนี้ตามสื่อหลักและโซเชียล กรณี เจ้าคณะจังหวัดมีหนังสือขับออกจากเขตการปกครอง ก่อนอื่นอาตมาขอขอบคุณในความเมตตาของครูบาอาจารย์ที่มีแต่สิ่งดีๆมาให้
หนังสือที่เจ้าคณะจังหวัดทำมาถึงนั้นเป็นเรื่องราวเก่า เห็นแล้วก็รับไม่ได้ เรื่องนี้อาตมาเคยไปกราบเรียนท่านเรียบร้อยแล้ว ทำตามที่ท่านกล่าวเตือนมา ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นอาตมาไม่ได้หวั่นไหวอะไร เพราะไม่ได้โดนเจ้าอาวาสวัดหรือชาวบ้านไล่ ซึ่งหากเจ้าอาวาสหรือชาวบ้านไล่ อันนี้ขอยอมรับเลย
ขอชี้แจงไปถึงศรัทธาญาติโยมให้ทราบว่าอาตมามีความตั้งใจจะสร้างสถานที่นี้เอาไว้เป็นที่ปฏิบัติธรรม เพื่อดึงดูดญาติโยม ซึ่งหากอาตมาไม่พานำพาญาติโยมก็คงจะไม่มีใครเข้าวัดสวดมนต์ สิ่งที่ทำก็เป็นอุบายแบบใหม่ที่จะดึงคนเข้าวัดสวดมนต์ ตอนนี้อาตมาและวัดก็มีโครงการที่จะสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ที่ตอนนี้สร้างไปเยอะแล้ว
ส่วนที่ซื้อที่ดินไว้เพื่อสร้างเจดีย์หลวงปู่มั่น จ่ายมัดจำไปแล้ว เมื่อหนังสือขับไล่ให้ออกจากวัดภายใน 7 วัน และให้หยุดโครงการทุกอย่างลง ความรู้สึกตอนนั้นน้ำตาก็จะไหลพร้อมลูกศิษย์
โชคดีที่อาตมาฝึกสมาธิมาดี ไม่งั้นก็คงร้องไห้กับญาติโยมแล้ว บอกตรงๆ เห็นหนังสือแล้วรับไม่ได้ สำหรับงานกฐินที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ก็จะเดินทางไปรับกฐินเหมือนเดิม และก็ยังคงดำเนินการต่อไป ซึ่งจากนี้อาตมาจะไปอยู่สังกัดมหานิกาย โอกาสนี้ต้องขออภัยพระสายธรรมยุตทุกท่าน